พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
พระอุปคุตหลวงพ่...
พระอุปคุตหลวงพ่ออิ่มวัดหัวเขา
พระอุปคุตอุปคุตหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา เป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าสมัยเดียวกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านเป็นอาจารย์ของ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ และอีกหลายพระเกจิอาจารย์ วัตถุมงคลของ หลวงพ่ออิ่ม ที่พบเห็นส่วนใหญ่เป็นพระหล่อแบบโบราณ เนื้อทองผสมแก่ทองเหลือง รวมทั้ง นางกวัก และ แหวน ลวดลายต่างๆ ส่วนองค์นี้เป็น พระอุปคุต พระอรหันต์ที่เป็นเลิศในทางปราบมาร พุทธคุณโดดเด่นในทางมหาอำนาจคงกะพันชาตรี องค์นี้เก่ามากกระแสเนื้อโลหะอมเขียว ซึ่งถือว่ารองลงมาจากพระยุคแรกที่เป็นเนื้อสัมฤทธิ์ ศิลปะจัดมาก รับประกันส่องมันส์ตาหล่าว พระแห่งโชคลาภคุ้มกันภัย
พระอุปัชฌาย์อิ่ม สิริปุญโญ วัดหัวเขา อดีตเจ้าอาวาสวัดหัวเขา ต.หัวเขา อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ท่านเป็นหนึ่งใน๓พระอาจารย์ใหญ่สำนักวิปัสสนากรรมฐานแห่งเมืองสุพรรณ ในยุคช่วงก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่๒ (รัชสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่๖-๗) อันประกอบไปด้วย ๑.หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา (พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายเหนือของเมืองสุพรรณ) ๒.หลวงพ่อปลื้ม วัดพร้าว (พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายกลางของเมืองสุพรรณ) ๓.หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน (พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายใต้ของเมืองสุพรรณ) อิทธิฤทธิ์ กิตติคุณ ปาฏิหาริย์ในเวทย์วิทยาคมในนามของ "หลวงพ่อพระอุปัชฌาย์อิ่ม แห่งสำนักวัดหัวเขา" เป็นที่กล่าวขาน โจษจันกันมาช้านานตั้งแต่ครั้นสมัยท่านยังทรงสังขารอยู่ แม้จวบจนปัจจุบันท่านจะมรณะภาพไปนานแล้วกว่า๗๐ปีแล้วก็ตาม กิตติศัพท์ ชื่อเสียงในเวทย์วิทยาคมของท่านก็ยังคงอยู่ มิได้สูญหาย อันตธานหายไปจากใจของชาวเมืองสุพรรณตามกาลเวลา เรื่องราวความดีและสิ่งต่างๆที่ท่านได้ถ่ายทอดและทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์ให้แก่อนุชนคนรุ่นหลัง อย่างเราๆทั้งหลายได้เคารพสักการะ และเป็นหลักที่พึ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจอยู่เสมอ อย่างเช่น วัตถุมงคลที่ท่านได้สร้างขึ้นไว้ ศาสนสถาน ถาวรวัตถุต่างๆ หรือจะเป็นบุคคลากร อย่างเช่น พระภิกษุสงฆ์ พระเกจอาจารย์ต่างๆที่เป็นศิษย์ท่าน และบุคคลากรอื่นๆที่มีศักยภาพทางสังคมและหลายต่อหลายอย่างอีกมากมาย ยังคงสถิตย์อยู่คู่โลกของเรามิได้ผ่านพ้นหายไปตามเวลาเลยประวัติของหลวงพ่ออิ่ม ท่านเลือนราง มีไม่มากพอและชัดเจนนัก เนื่องจากว่าในยุคของหลวงพ่อในสมัยก่อนนั้น ไม่ได้มีการจดบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ข้อมูลเรื่องราวของหลวงพ่ออิ่มในปัจจุบันที่ได้ศึกษากันอยู่นั้นจึงเป็นข้อมูลที่ไม่ได้มาจากบทความหรือบันทึกลายลักษณ์อักษรที่มาจากหลวงพ่ออิ่ม ผู้เป็นเจ้าของต้นเรื่อง ได้อาศัยเอาจากคำกล่าวคำบอกเล่าของลูกศิษย์ลูกหาที่ทันและทราบในเรื่องราวของหลวงพ่อ ซึ่งแน่แท้ว่าคำกล่าวคำบอกเล่าของบุคคลหลายๆคนนั้นย่อมมีความผิดพลาด ขาดตกและบกพร่องเป็นธรรมดาก่อนจะกล่าวประวัติหลวงพ่ออิ่มต่อไป ก่อนอื่นขอท้าวความถึงบันทึกประวัติวัดไก่เตี้ย อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับประวัติหลวงพ่ออิ่มอย่างมาก ว่า"วัดไก่เตี้ยได้ถูกทิ้งรกร้างลง กระทั่ง พ.ศ.๒๔๒๘ จึงได้มีหลวงพ่ออิ่ม จากวัดเสาธงทองซึ่งตั้งอยู่คนละฟากฝั่งแม่น้ำสุพรรณ(ท่าจีน)เล็งเห็นความยากลำบากและเสี่ยงอันตรายของชาวบ้านย่านวังยางที่ต้องข้ามฟากไปทำบุญถึงวัดเสาธงทองโดยเฉพาะ อย่างยิ่งในฤดูน้ำหลาก กระแสน้ำเชี่ยวกลาดน่ากลัวอันตรายอย่างยิ่ง หลวงพ่ออิ่มจึงได้ชักชวนชาวบ้านย่านวังยาง ช่วยกันฟื้นฟูวัดไก่เตี้ยจากวัดร้างให้คืนสภาพเป็นที่ควรอยู่อาศัยขึ้นมา ใหม่ จวบจนต่อมาก็ได้นิมนต์หลวงพ่อแสน สุวณฺโณ (จากวัดใดไม่ปรากฎ) ให้มาอยู่ประจำขึ้นเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา ส่วนตัวหลวงพ่ออิ่มท่านเองต่อมาได้ย้ายไปอยู่ที่วัดหัวเขา นับได้ว่าวัดไก่เตี้ยได้กลับคืนสภาพเป็นวัดมีพระสงฆ์อยู่จำพรรษาต่อเนื่อง สืบสภาพมานับแต่กาลนั้นจนถึงปัจจุบัน หลวงพ่ออิ่มท่านถือธุดงค์เป็นวัตรและพบครูบาอาจารย์ดีก็ศึกษาหาความรู้ไปเรื่อย ทั้งตำหรับตำราวิชาก็มากมี อันที่จริงหลวงพ่ออิ่มท่านเก่งได้ด้วยตัวท่านเอง เรื่องของครูบาอาจารย์ท่านนั้นไม่สามารถสืบค้นกันได้ชัดเจน แต่หากเอาจากข้อสันนิษฐานกัน ก็คือ ๑.หลวงพ่อแก้ว วัดพร้าว จ.สุพรรณบุรี (สันนิษฐาน) ท่านเป็นพระอาจารย์ที่ขึ้นชื่อลือชาในพระเวทย์วิทยาคม แห่งสำนักตักศิลาวิทยาคมวัดพร้าว บ้านโพธิ์เจ้าพระยา เมืองสุพรรณบุรีมาก ท่านอาวุโสกว่าหลวงพ่อเนียม วัดน้อย หลวงพ่อแก้วเป็นพระอุปัชฌาย์ที่ทำการอุปสมบทให้กุลบุตรนับว่าค่อนจังหวัดได้ เพราะว่าในยุคนั้นเมืองสุพรรณบุรีมีพระอุปัชฌาย์เพียงสองสามรูปเอง หลวงพ่อแก้วท่านนับได้ว่าเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์ของหลายเกจิเมืองสุพรรณเลยทีเดียว ๒.หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท (ข้อมูลยังไม่สมเหตุสมผลไม่ชัดเจน) หลวงปู่ศุขนั้นขึ้นชื่อเรืงเวทย์เป็นที่โจษจันกันอยู่แล้ว กล่าวกันว่าหลวงพ่ออิ่มท่านเป็นทั้งศิษย์และสหธรรมิกของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าด้วย หลวงพ่ออิ่มปกครอง พัฒนาคนพัฒนาวัดเรื่อยมา จวบจนได้รับแต่งตั้งสมณศักด์สุดท้ายที่ "พระครูปลัดอิ่ม สริปุญโญ" ก่อนท่านจะมรณภาพลง ในอิริยาบทท่านั่งสมาธิ เมื่อประมาณต้นปีพ.ศ.๒๔๘๐ สิริอายุ ๗๔ปี ซึ่งนับว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ ๑ใน ๒รูป ของเมืองสุพรรณที่มรณภาพในท่านั่งสมาธิ ซึ่งอีกท่านนั้นก็คือหลวงพ่อเซ้ง วัดพร้าว ปัจจุบันวัดหัวเขามีประเพณีการตักบาตรเทโว คราวันออกพรรษาที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมืองสุพรรณบุรี ***************** ขอบพระคุณข้อมูล จากร่มโพธิ์ไทร com. และคุณทศ เดิมบาง ชมรมพระเครื่องอำเภอเดิมบางนางบวช
ผู้เข้าชม
30 ครั้ง
ราคา
5,500
สถานะ
มาใหม่
ชื่อร้าน
ยอดวัดโพธิ์
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
manoonsak_yod1
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
004-1-884xx-x

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
ชา พูนสินTotoTatoโก้ สมุทรปราการsomphopstp253ep8600
hoppermankaew กจ.mon37kumphaพีพีพระเครื่องvanglanna
Leksoi8somemanchaithawatเปียโนปลั๊ก ปทุมธานีเทพจิระ
ทิน ธรรมยุตjochoโกหมูNiti3303ภูมิ IRมัญจาคีรี ud
Beerchang พระเครื่องapirukชา วานิชNonthephatsadinponsrithong2tangmo

ผู้เข้าชมขณะนี้ 1108 คน

เพิ่มข้อมูล

พระอุปคุตหลวงพ่ออิ่มวัดหัวเขา




  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
พระอุปคุตหลวงพ่ออิ่มวัดหัวเขา
รายละเอียด
พระอุปคุตอุปคุตหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา เป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าสมัยเดียวกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านเป็นอาจารย์ของ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ และอีกหลายพระเกจิอาจารย์ วัตถุมงคลของ หลวงพ่ออิ่ม ที่พบเห็นส่วนใหญ่เป็นพระหล่อแบบโบราณ เนื้อทองผสมแก่ทองเหลือง รวมทั้ง นางกวัก และ แหวน ลวดลายต่างๆ ส่วนองค์นี้เป็น พระอุปคุต พระอรหันต์ที่เป็นเลิศในทางปราบมาร พุทธคุณโดดเด่นในทางมหาอำนาจคงกะพันชาตรี องค์นี้เก่ามากกระแสเนื้อโลหะอมเขียว ซึ่งถือว่ารองลงมาจากพระยุคแรกที่เป็นเนื้อสัมฤทธิ์ ศิลปะจัดมาก รับประกันส่องมันส์ตาหล่าว พระแห่งโชคลาภคุ้มกันภัย
พระอุปัชฌาย์อิ่ม สิริปุญโญ วัดหัวเขา อดีตเจ้าอาวาสวัดหัวเขา ต.หัวเขา อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ท่านเป็นหนึ่งใน๓พระอาจารย์ใหญ่สำนักวิปัสสนากรรมฐานแห่งเมืองสุพรรณ ในยุคช่วงก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่๒ (รัชสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่๖-๗) อันประกอบไปด้วย ๑.หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา (พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายเหนือของเมืองสุพรรณ) ๒.หลวงพ่อปลื้ม วัดพร้าว (พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายกลางของเมืองสุพรรณ) ๓.หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน (พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายใต้ของเมืองสุพรรณ) อิทธิฤทธิ์ กิตติคุณ ปาฏิหาริย์ในเวทย์วิทยาคมในนามของ "หลวงพ่อพระอุปัชฌาย์อิ่ม แห่งสำนักวัดหัวเขา" เป็นที่กล่าวขาน โจษจันกันมาช้านานตั้งแต่ครั้นสมัยท่านยังทรงสังขารอยู่ แม้จวบจนปัจจุบันท่านจะมรณะภาพไปนานแล้วกว่า๗๐ปีแล้วก็ตาม กิตติศัพท์ ชื่อเสียงในเวทย์วิทยาคมของท่านก็ยังคงอยู่ มิได้สูญหาย อันตธานหายไปจากใจของชาวเมืองสุพรรณตามกาลเวลา เรื่องราวความดีและสิ่งต่างๆที่ท่านได้ถ่ายทอดและทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์ให้แก่อนุชนคนรุ่นหลัง อย่างเราๆทั้งหลายได้เคารพสักการะ และเป็นหลักที่พึ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจอยู่เสมอ อย่างเช่น วัตถุมงคลที่ท่านได้สร้างขึ้นไว้ ศาสนสถาน ถาวรวัตถุต่างๆ หรือจะเป็นบุคคลากร อย่างเช่น พระภิกษุสงฆ์ พระเกจอาจารย์ต่างๆที่เป็นศิษย์ท่าน และบุคคลากรอื่นๆที่มีศักยภาพทางสังคมและหลายต่อหลายอย่างอีกมากมาย ยังคงสถิตย์อยู่คู่โลกของเรามิได้ผ่านพ้นหายไปตามเวลาเลยประวัติของหลวงพ่ออิ่ม ท่านเลือนราง มีไม่มากพอและชัดเจนนัก เนื่องจากว่าในยุคของหลวงพ่อในสมัยก่อนนั้น ไม่ได้มีการจดบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ข้อมูลเรื่องราวของหลวงพ่ออิ่มในปัจจุบันที่ได้ศึกษากันอยู่นั้นจึงเป็นข้อมูลที่ไม่ได้มาจากบทความหรือบันทึกลายลักษณ์อักษรที่มาจากหลวงพ่ออิ่ม ผู้เป็นเจ้าของต้นเรื่อง ได้อาศัยเอาจากคำกล่าวคำบอกเล่าของลูกศิษย์ลูกหาที่ทันและทราบในเรื่องราวของหลวงพ่อ ซึ่งแน่แท้ว่าคำกล่าวคำบอกเล่าของบุคคลหลายๆคนนั้นย่อมมีความผิดพลาด ขาดตกและบกพร่องเป็นธรรมดาก่อนจะกล่าวประวัติหลวงพ่ออิ่มต่อไป ก่อนอื่นขอท้าวความถึงบันทึกประวัติวัดไก่เตี้ย อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับประวัติหลวงพ่ออิ่มอย่างมาก ว่า"วัดไก่เตี้ยได้ถูกทิ้งรกร้างลง กระทั่ง พ.ศ.๒๔๒๘ จึงได้มีหลวงพ่ออิ่ม จากวัดเสาธงทองซึ่งตั้งอยู่คนละฟากฝั่งแม่น้ำสุพรรณ(ท่าจีน)เล็งเห็นความยากลำบากและเสี่ยงอันตรายของชาวบ้านย่านวังยางที่ต้องข้ามฟากไปทำบุญถึงวัดเสาธงทองโดยเฉพาะ อย่างยิ่งในฤดูน้ำหลาก กระแสน้ำเชี่ยวกลาดน่ากลัวอันตรายอย่างยิ่ง หลวงพ่ออิ่มจึงได้ชักชวนชาวบ้านย่านวังยาง ช่วยกันฟื้นฟูวัดไก่เตี้ยจากวัดร้างให้คืนสภาพเป็นที่ควรอยู่อาศัยขึ้นมา ใหม่ จวบจนต่อมาก็ได้นิมนต์หลวงพ่อแสน สุวณฺโณ (จากวัดใดไม่ปรากฎ) ให้มาอยู่ประจำขึ้นเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา ส่วนตัวหลวงพ่ออิ่มท่านเองต่อมาได้ย้ายไปอยู่ที่วัดหัวเขา นับได้ว่าวัดไก่เตี้ยได้กลับคืนสภาพเป็นวัดมีพระสงฆ์อยู่จำพรรษาต่อเนื่อง สืบสภาพมานับแต่กาลนั้นจนถึงปัจจุบัน หลวงพ่ออิ่มท่านถือธุดงค์เป็นวัตรและพบครูบาอาจารย์ดีก็ศึกษาหาความรู้ไปเรื่อย ทั้งตำหรับตำราวิชาก็มากมี อันที่จริงหลวงพ่ออิ่มท่านเก่งได้ด้วยตัวท่านเอง เรื่องของครูบาอาจารย์ท่านนั้นไม่สามารถสืบค้นกันได้ชัดเจน แต่หากเอาจากข้อสันนิษฐานกัน ก็คือ ๑.หลวงพ่อแก้ว วัดพร้าว จ.สุพรรณบุรี (สันนิษฐาน) ท่านเป็นพระอาจารย์ที่ขึ้นชื่อลือชาในพระเวทย์วิทยาคม แห่งสำนักตักศิลาวิทยาคมวัดพร้าว บ้านโพธิ์เจ้าพระยา เมืองสุพรรณบุรีมาก ท่านอาวุโสกว่าหลวงพ่อเนียม วัดน้อย หลวงพ่อแก้วเป็นพระอุปัชฌาย์ที่ทำการอุปสมบทให้กุลบุตรนับว่าค่อนจังหวัดได้ เพราะว่าในยุคนั้นเมืองสุพรรณบุรีมีพระอุปัชฌาย์เพียงสองสามรูปเอง หลวงพ่อแก้วท่านนับได้ว่าเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์ของหลายเกจิเมืองสุพรรณเลยทีเดียว ๒.หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท (ข้อมูลยังไม่สมเหตุสมผลไม่ชัดเจน) หลวงปู่ศุขนั้นขึ้นชื่อเรืงเวทย์เป็นที่โจษจันกันอยู่แล้ว กล่าวกันว่าหลวงพ่ออิ่มท่านเป็นทั้งศิษย์และสหธรรมิกของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าด้วย หลวงพ่ออิ่มปกครอง พัฒนาคนพัฒนาวัดเรื่อยมา จวบจนได้รับแต่งตั้งสมณศักด์สุดท้ายที่ "พระครูปลัดอิ่ม สริปุญโญ" ก่อนท่านจะมรณภาพลง ในอิริยาบทท่านั่งสมาธิ เมื่อประมาณต้นปีพ.ศ.๒๔๘๐ สิริอายุ ๗๔ปี ซึ่งนับว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ ๑ใน ๒รูป ของเมืองสุพรรณที่มรณภาพในท่านั่งสมาธิ ซึ่งอีกท่านนั้นก็คือหลวงพ่อเซ้ง วัดพร้าว ปัจจุบันวัดหัวเขามีประเพณีการตักบาตรเทโว คราวันออกพรรษาที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมืองสุพรรณบุรี ***************** ขอบพระคุณข้อมูล จากร่มโพธิ์ไทร com. และคุณทศ เดิมบาง ชมรมพระเครื่องอำเภอเดิมบางนางบวช
ราคาปัจจุบัน
5,500
จำนวนผู้เข้าชม
31 ครั้ง
สถานะ
มาใหม่
โดย
ชื่อร้าน
ยอดวัดโพธิ์
URL
เบอร์โทรศัพท์
089-356-2879
ID LINE
manoonsak_yod1
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 004-1-884xx-x




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี