ประวัติ”พระปลัดสุนิตย์ สุจิตฺโต” หรือ พระอาจารย์สุนิตย์ สุจิตฺโต อายุ 57 ปี 35 พรรษา ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านบะแต้ ตำบลหนองโก อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น มีวิทยาฐานะที่ พระปลัด ในฐานาของหลวงพ่อท่านเจ้าคุณ พระครูธรรมกิจพิทักษ์ เจ้าคณะอำเภอหนองเรือ
มีนามเดิมว่า นายสุนิตย์ นามสกุล โคตรมี เกิดเมื่อวันที่ 30 เดือนธันวาคม ปี พ.ศ.2508 ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่บ้านหนองเม็ก หมู่ 5 ตำบลบ้านกง อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น เป็นบุตรของคุณพ่อทองสังข์ คุณแม่เปลี่ยน โคตรมี
มีพี่น้องจำนวนสามคน โดยเป็นบุตรคนที่สอง มีพี่สาวชื่อสมหวัง และมีน้องชายชื่อวิญโย พระอาจารย์สุนิตย์ ท่านมีเชื้อสายทางวิชาอาคมมาจากสายเลือดโดยแท้ ซึ่งคุณตาอ่อนตา ก็เป็นหมอธรรมประจำหมู่บ้าน มีวิชาอาคมแก่กล้า เป็นที่ยำเกรงของคนในพื้นที่นี้มาก
ส่วนคุณแม่เปลี่ยนก็มีความสามารถในการขับร้องบทสรภัญญะ* ในวัยเยาว์เด็กชายสุนิตย์ จะชอบติดตามคุณแม่ไปทำบุญที่วัดประจำ ชอบเสียงสวดมนต์ จนสามารถท่องบทสวดมนต์ได้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เมื่อเรียนหนังสือจนจบประถมศึกษาแล้ว ก็ช่วยพ่อแม่ทำงานที่บ้าน จนเมื่ออายุ 15 ปี
ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร ในปี พ.ศ.2523 ที่วัดหนองเม็ก จนถึงปี พ.ศ.2528มีความคึกคะนองอยากเป็นทหาร จึงได้ลาสิกขา ไปคัดเลือกทหาร แต่ว่าไม่ได้ติดทหาร แล้วก็ได้ช่วยงานที่บ้าน จนถึงปีพ.ศ.2530 จึงได้บวชพระ รวมระยะเวลา 5ปี ที่ได้บรรพชาเป็นสามเณร
การอุปสมบท
เมื่อปี พ.ศ.2530 ก็ได้อุปสมบทที่วัดโพธิ์ทอง ตำบลบ้านกง พระอุปัชฌาย์จารย์ ก็ได้สอนสวดมนต์ นั่งสมาธิเจริญภาวนา แล้วในเวลานี้ พระสุนิตย์ได้มีโอกาสอ่านหนังสือธรรมะ หนังสือประวัติครูบาอาจารย์สายกรรมฐาน มีใจฝักใฝ่ในการประพฤติปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะการออกเดินธุดงค์เป็นอย่างมาก จนได้เจอกับพระอาจารย์มาลัย เตชปัญโญ(บ้านใหม่สำโรง ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา)
ซึ่งเป็นพระสายกรรมฐาน ชอบปฏิบัติกรรมกรรมฐานด้วยการปลีกวิเวก เดินธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆในปี พ.ศ. 2531~2534 พระสุนิตย์จึงได้ออกเดินธุดงค์ร่วมกับพระอาจารย์มาลัย ผู้ที่ได้ชักชวนให้ร่วมเดินธุดงค์ไปด้วย โดยครั้งนี้ได้ไปเดินธุดงค์ตามลำแม่น้ำโขง ทั้งเขตไทยและเขตลาว ตลอดเวลานี้ก็ได้ร่ำเรียนวิชาอาคมไปด้วย เช่นพระคาถามนต์การเวก ทั้งยังได้ไปตอกตะกรุดทองคำกับหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ไปหาหลวงพ่ออุตตมะ ไปหาพระอาจารย์สมภพ พระอาจารย์สมพร ต่างๆเดินธุดงค์กับหลวงปู่สมภาร อนาวิโล เป็นต้น
จวบจนถึงปี พ.ศ.2535 พระสุนิตย์ ได้ปลีกวิเวก ด้วยการอยู่ปฏิบัติธรรมรูปเดียว โดยพำนักจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำพระเวทต์ ดงมูล จังหวัดกาฬสินธุ์ ในระหว่างนี้ ได้มีชาวบ้านเขาล่ำลือกันว่า ที่สันเขื่อนจุฬาภรณ์นั้นเป็นที่อาถรรพ์ พระสุนิตย์ได้ยินดังนั้นจึงมีใจที่คิดอยากลองไปปฏิบัติธรรมที่นั่นดู ในปี พ.ศ. 2536-2539จึงได้เดินทางมาปฏิบัติธรรมที่สันเขื่อนจุฬาภรณ์ โดยได้ทำที่หลบฝนด้วยไม้ไผ่และอาศัยการบิณฑบาตจากเจ้าหน้าที่อนุรักษ์บ้าง ชาวบ้านบ้าง ซึ่งในปี พ.ศ. 2536-2537 ก็ได้มีหลวงตา และพระมาร่วมจำพรรษาอยู่ด้วย
และในระหว่างนี้ ชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างกระท่อมหลบฝนให้ใหม่ มีการมุงหลังคาด้วยหญ้าคา ในปี พ.ศ. 2538 ได้มีพระมาร่วมจำพรรษา ด้วยกัน 5รูป คือพระสุนิตย์ พระอาจารย์วิโรจน์ จากหนองคาย พระอาจารย์อัฐสิทธิ์ พระอาจารย์ทูล ครูบากฤษณะ ในระหว่างนี้ ได้เรียนอักษรเทวะนาคีจากครูบากฤษณะ และแกะบล๊อกพระด้วยหินลับมีดโกน คือบล๊อกสาริกาของท่านครูบากฤษณะยุคต้นนั่นเอง
ในปี พ.ศ. 2540 พระสุนิตย์ ได้ย้ายมาอยู่ที่วัดป่าบ้านบะแต้ ในระหว่างนี้ พระสุนิตย์ก็ได้ไปเรียนวิชากับหลวงปู่จันทร์ (ฮันนี่ ศรีอีสาน)
เมื่อปี พ.ศ. 2558 ไปเรียนคุรุสาสมาธิ รุ่นพระเวทย์ กับหลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล กรุงเทพมหานคร
พระอาจารย์สุนิตย์กับการสักยันต์
เนื่องจากที่พระอาจารย์สุนิตย์นั้นมีคุณตาอ่อนตา ที่เป็นคนแก่กล้าวิชาอาคม และเป็นหมอธรรม ดังที่ได้กล่าวมาเบื้องต้นแล้ว ดังนั้นพระอาจารย์สุนิตย์ จึงมีความชื่นชอบในเรื่องของมนต์คาถาวิชาอาคมต่างๆ จึงเป็นที่มาของการได้สักยันต์ ซึ่งพระอาจารย์นั้นได้มีทั้งอาจารย์ฆราวาสและอาจารย์พรรพชิต ยกตัวอย่างดังต่อไปนี้
~สักยันต์กับพ่อกำนันบุญเลิศ อนุศรี คือยันต์เสือเผ่นที่หน้าอก ยันต์มังกรที่แขนข้างขวา ยันต์พระฤาษี และยันต์พระแม่ธรณี ซึ่งพ่อกำนันบุญเลิศ นี้คืออาจารย์สักยันต์ของ พรศักดิ์ ส่องแสง จนเป็นที่มาของฉายา “แขนซ้ายลายมังกร” ซึ่งพระอาจารย์สุนิตย์นี้ คือตำนานที่ยังมีลมหายใจในสายสักยันต์ของพ่อกำนันบุญเลิศ
~สักยันต์กับครูบากฤษณะ ยันต์สาริกา ยันต์นพเกล้าหนุนดวง ยันต์ตะหวาดหิมพานต์
～ลงกระหม่อมกับหลวงพ่อมหาทรงยศ กตปุญโญ วัดเจ้าอาม
พระอาจารย์สุนิตย์กับนาคเทพ มีสุข มีโชค ร่ำรวย
นาคเทพ คือองค์เทพที่พระอาจารย์สุนิตย์ได้เกิดนิมิตรเห็นขึ้นในระหว่างทำพิธีบวงสรวง ในงานไหว้ครูของครูบากฤษณะ ที่จัดขึ้นที่วัดป่ามหาวัน ซึ่งในนิมิตรของพระอาจารย์สุนิตย์นั้น เห็นเป็นเทพบุตรลักษณะยืนอยู่ มือถือถุงวิเศษ และมีเงินทองทรัพย์สมบัติอยู่ด้วย แต่ด้านหลังและด้านข้างมีพญานาคอยู่ ลอยลงมาจากท้องฟ้า และมาหยุดอยู่ตรงหน้าของพระอาจารย์ หลักจากที่เกิดนิมิตรนี้ขึ้น พระอาจารย์สุนิตย์ได้เล่าให้ครูบากฤษณะฟัง ซึ่งครูบาบอกว่า นาคเทพท่านเป็นเทพของเรา จะมาช่วยเราสร้างบารมี หลังจากนั้นพระอาจารย์สุนิตย์ จึงได้ไปเล่าให้พระอีกรูปฟัง และให้ช่วยวาดรูปออกมา ให้เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ จวบจนได้แกะบล๊อกและทำเป็นวัตถุมงคล มีการบวงสรวงประจำปี ทุกวันที่ 10 มิถุนายน เป็นต้นมา จวบจนทุกวันนี้
นาคเทพ วัดป่าบ้านบะแต้
เมื่อปี พ.ศ.2545 หลังจากที่พระอาจารย์สุนิตย์ได้เกิดนิมิตรแล้ว ก็ได้ให้พระวาดรูป และแกะบล๊อกทำเป็นวัตถุมงคลแล้ว พระอาจารย์สุนิตย์ยังได้จัดตั้งฐานเป็นที่ประทับของนาคเทพไว้ที่วัดอีกด้วย ก็มีผู้คนมากราบไหว้อธิษฐานขอพร ทั้งยังบนบานสานกล่าวอยู่เป็นประจำ ซึ่งก็มีประสบการณ์ มีการมาแก้บนอยู่เป็นประจำ ลูกศิษย์ลูกหาผู้ที่ศรัทธาก็มีทั้งคนไทยและคนต่างประเทศ
Cr.กลุ่มอนุรักษ์แลกเปลี่ยน วัตถุมงคลพระอาจารย์สุนิตย์ สุจิตฺโต

ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน