พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
สมเด็จตระกั่วเถ...
สมเด็จตระกั่วเถื่อน(พิมพ์ใหญ่) หลวงปู่วรพรตวิธาน วัดจุมพล จังหวัดขอนแก่น
ประวัติ หลวงปู่วรพรตวิธาน “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง” .. นามเดิมท่านชื่อ “พันธ์ ทับงาม” เกิดวันพุธที่ 1 ธันวาคม 2444 ที่บ้านน้ำอ้อม อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด (ที่จริงแล้วท่านเกิดในปี พ.ศ 2437 แต่แจ้งวันเกิดช้ากว่ากำหนดโดยวันเดือนเกิดไม่ทราบแน่ชัด) บิดาชื่อ พ่อศิลา มารดาชื่อ แม่ทอง ทับงาม ชีวิตเยาว์วัยท่านเป็นคนเรียนหนังสือเก่งมาก จนขุนเกษตรวิสัยเจ้าเมืองร้อยเอ็ดเอาไปรับราชการเป็นเสมียนประจำตัวท่าน รับราชการจนอายุได้ 16 ปี จึงลาบวชเป็นสามเณร ณ.วัดบ้านน้ำอ้อม จนอายุได้ 21 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระต่อโดยมีพระครูธรรมสังฆบาลเป็นพระอุปัชณาย์มีฉายาว่า “ติสโส” ท่านเป็นพระหนุ่มที่เรียนหนังสือเก่งมากท่องปฏิโมกข์ได้ตั้งแต่พรรษาแรก และปี พ.ศ 2472 หลวงปู่ ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้ ในปีนั้นหลวงปู่สอบนักธรรมเอกได้เพียงองรูปเดียวเท่านั้นทั่วมณฑลร้อยเอ็ด (รวมกาฬสินและมหาสารคามด้วย) จนได้รับรูปท่านเจ้าคุณพระโพธิวาศจารย์แม่กองธรรมอุบลเป็นรางวัล หลวงปู่ได้มาเรียนเทศนากับท่านเจ้าคุณกัณหา ณ วัด หนองทุ่ม อ.พล จ.ขอนแก่น (เจ้าคุณกัณหาเจ้าคณะ จังหวัดขอนแก่น ในสมัยนั้น พ.ศ 2473) ปี พ.ศ 2475 บ้านเมืองได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเจ้าคุณกัณหาจึงได้ส่งหลวงปู่วรพรตมาเป็นเจ้าอาวาสวัดจุมพล บ้านก้านเหลือง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น อายุการสร้างวัดจุมพล ประมาณ 150 ปี ในสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ 2480 หลวงปู่ได้สร้าง อุโบสถขึ้นมาใหม่ เสร็จเอาปี พ.ศ 2483 ค่าก่อสร้างเป็นเงิน 2,500 บาท ปูนชีเมนต์สมัยนั้นถุงละ 1.50 บาท ปี พ.ศ. 2482 หลวงปู่ได้ขอพระราชทาน พระปรมาภิไธย์ย่อ ของรัชการที่ 8 แต่พระองค์ท่านได้พระราชทานเหรียญพระฉายาลักษณ์ของท่านให้หลวงปู่วรพรต หลวงปู่ท่านเอาเหรียญนั้นติดไว้หน้าพระอุโบสถต่อจากนั้นมาหลวงปู่ก็ได้พัฒนาวัดจุมพลมาเรื่อยๆ ตลอดจนวัดต่างๆ ในอำเภอแวงน้อย และอำเภอพล (แต่ก่อนอำเภอแวงน้อยเป็นตำบล ขึ้นอยู่กับอำเภอพล) ในการสร้างพระอุโบสถและกุฎิ รวมทั้งศาลาการเปรียญ รวมทั้งสิ้น ประมาณ 30 หลัง ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ได้มีการขยายการปกครองออกไปอีก ทางการจึงตั้งตำบลแวงน้อยขึ้นเป็นอำเภอแวงน้อย หลวงปู่วรพรตวิธานจึงได้เป็นเจ้าคณะอำเภอแวงน้อยรูปแรก หลวงปู่ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมขลังมาก ได้เรียนวิชาอาคมมาจาก 5 อาจารย์ด้วยกัน เช่น หลวงศรีธรรมศาสตร์ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม หลวงปู่ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ จากอาจารย์ครีธรรมศาสตร์ จนเรียนจบเรียบร้อยแล้วก็ได้เดินทางไปศึกษาวิชาอาคมจาก พระอาจารย์ขันวัดท่าสะแบง ต.มะบ้า อ.ธวัชบุรี จ. ร้อยเอ็ด พระอาจารย์ขันวัดท่าสะแบงนี้ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมรูปหนึ่งในภาคอีสานในสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็นวิชาอาคมทางด้านเมตตามหานิยม, คงกระพันชาตรี, แคล้วคลาด, มหาอุต ป้องกันขับไล่ คุณไสย คุณผี คุณคน หลวงปู่วรพรตท่าน ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากพระอาจารย์ขันจนหมดสิ้น แล้วหลวงปู่ก็ได้ไปศึกษากับอาจารย์บ้านฟ้าเหลี่ยม อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด เกจิอาจารย์ดังองค์หนึ่งในสมัยนั้น ขนาดท่านปัสสาวะรดต้นไม้ เอาปืนยิงต้นไม้ ยังยิงไม่ออกแต่ก็ยังไม่พอความต้องการของหลวงปู่ หลังจากนั้นท่านก็ได้มุ่งหน้าไปศึกษากับ หลวงปู่ชม ฐานธัมโม แห่งวัดกู่ พระโกนา อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่าน หลวงปู่ชมรูปนี้ท่านมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถมาก มีอิทธิปาฏิหาริย์นานัปการ ท่านสามารถล่องหนหายตัวได้ หลวงปู่ชมท่านได้สร้าง วัดขึ้นบริเวณใกล้กับกู่โกนาอยู่ทางจะไป อ. ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะมุ้งไปเขมรต่ำ (ประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน) หลวงปู่ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมและวิปัสนากัมมัฏฐาน อยู่ 2 ปี เมื่อ พ.ศ. 2479 ท่านได้กราบลาหลวงปู่ชม ออกมุ่งหน้ามายัง จ. ขอนแก่น เพื่อกับวัดจุมพลของท่าน หลังจากที่ท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมจากพระอาจารย์ ต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้ออกเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต และได้แยกทางกันที่ อ. มัญจาคีรี จากนั้นหลวงปู่วรพรตท่านก็ได้เดินผ่านดงพญาเย็น-พญาไฟ ผ่านไปประเทศลาว พม่า เขมร เรื่องราวตอนที่ท่านเดินธุดงค์ ไปนั้นมีมากมาย ผจญทั้งสัตว์ร้ายและภูตผีปีศาจ แต่ท่านก็ผ่านอุปสรรคนั้นมาได้ หลวงปู่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ในสมัยรัชการที่ 8 มีพระราชทินนามว่า “พระครูวรพรตวิธาน” เราจึงเรียกติดปากว่า “หลวงปู่วรพรต” ตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏแก่สายตาของผู้คนเป็นครั้งแรก ก็คือ เรื่องหลวงปู่เหยีบรถกระดก (ลอยขึ้น) เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2503 หลวงปู่จะออกเดินทางจาก อ. พล จ. ขอนแก่น ด้วยรถโดยสารเพื่อจะไป จ.ร้อยเอ็ด รถคันที่หลวงปู่จะขึ้นเป็นรถสองแถวขนาดใหญ่ ตามธรรมดาโดยทั่วไปแล้วพระเณรจะต้องนั่งด้านหน้าติดกับคนขับ เพื่อจะได้ไม่ปะปนกับผู้โดยสารคนอื่น แต่รถคันนี้มีผู้หญิงนั่งเต็มอยู่ด้านหน้าแล้ว ด้านหลังรถยังพอมีที่นั่งได้ คนขับรถจึงบอกให้หลวงปู่ขึ้นทางท้ายรถ หลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติตามโดยดี แต่ก่อนจะขึ้นรถหลวงปู่ได้พูดกับคนขับรถว่า “รถจะไม่เดี่ยงหรือ”(เดี่ยงเป็นภาษาไทยอีสานแปลว่า “ กระดก”) คนขับก็บอกว่า “ไม่เดี่ยงแน่เพราะรถรับน้ำหนักได้หลายตัน” พอคนขับพูดจบ หลวงปู่ก็ก้าวเท้าขึ้นรถ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นทันที ด้านหน้ารถลอยขึ้น เหมือนมีมือยักษ์มาจับยกขึ้น คนขับรถเห็นเช่นนั้นถึงกับตกตะลึงจึงกราบนิมนต์หลวงปู่มานั่งด้านหน้า โดยให้พวกผู้หญิงไปนั่งด้านหลัง ตั้งแต่นั้นมาสมญานาม “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง” จึงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในเขตขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา ต่างก็รู้เรื่องกันดี เคยมีญาติโยมที่อยู่ไกลถึง จ. กระบี่ เดินทาง มากราบขอคาถาเหยียบรถกระดกจากท่าน ท่านก็มอบคาถานะโมพุทธายะให้ไป แต่จะทำได้เหมือนหลวงปู่หรือเปล่าไม่ทราบ
ผู้เข้าชม
1734 ครั้ง
ราคา
แทน วังโตโย
สถานะ
ขายแล้ว
โดย
ชื่อร้าน
วังโตโย
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
ID LINE 0831510054
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
Le29Amuletก้อง วัฒนาสายน้ำอุ่นfuchoo18Bon13ว.ศิลป์สยาม
Beerchang พระเครื่องนนท์ คุณพระtossspoop2015vanglannaภูมิ IR
พีพีพระเครื่องพีพีพระสมเด็จsomemanชา วานิชlordพระเครื่องโคกมน
MuthitanatthanetกรัญระยองเปียโนSpidermanบ้านพระหลักร้อย
บ้านพระสมเด็จnattapong939อภินันต์ พระเครื่องChumpholKshopเจริญสุข

ผู้เข้าชมขณะนี้ 620 คน

เพิ่มข้อมูล

สมเด็จตระกั่วเถื่อน(พิมพ์ใหญ่) หลวงปู่วรพรตวิธาน วัดจุมพล จังหวัดขอนแก่น



  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
สมเด็จตระกั่วเถื่อน(พิมพ์ใหญ่) หลวงปู่วรพรตวิธาน วัดจุมพล จังหวัดขอนแก่น
รายละเอียด
ประวัติ หลวงปู่วรพรตวิธาน “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง” .. นามเดิมท่านชื่อ “พันธ์ ทับงาม” เกิดวันพุธที่ 1 ธันวาคม 2444 ที่บ้านน้ำอ้อม อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด (ที่จริงแล้วท่านเกิดในปี พ.ศ 2437 แต่แจ้งวันเกิดช้ากว่ากำหนดโดยวันเดือนเกิดไม่ทราบแน่ชัด) บิดาชื่อ พ่อศิลา มารดาชื่อ แม่ทอง ทับงาม ชีวิตเยาว์วัยท่านเป็นคนเรียนหนังสือเก่งมาก จนขุนเกษตรวิสัยเจ้าเมืองร้อยเอ็ดเอาไปรับราชการเป็นเสมียนประจำตัวท่าน รับราชการจนอายุได้ 16 ปี จึงลาบวชเป็นสามเณร ณ.วัดบ้านน้ำอ้อม จนอายุได้ 21 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระต่อโดยมีพระครูธรรมสังฆบาลเป็นพระอุปัชณาย์มีฉายาว่า “ติสโส” ท่านเป็นพระหนุ่มที่เรียนหนังสือเก่งมากท่องปฏิโมกข์ได้ตั้งแต่พรรษาแรก และปี พ.ศ 2472 หลวงปู่ ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้ ในปีนั้นหลวงปู่สอบนักธรรมเอกได้เพียงองรูปเดียวเท่านั้นทั่วมณฑลร้อยเอ็ด (รวมกาฬสินและมหาสารคามด้วย) จนได้รับรูปท่านเจ้าคุณพระโพธิวาศจารย์แม่กองธรรมอุบลเป็นรางวัล หลวงปู่ได้มาเรียนเทศนากับท่านเจ้าคุณกัณหา ณ วัด หนองทุ่ม อ.พล จ.ขอนแก่น (เจ้าคุณกัณหาเจ้าคณะ จังหวัดขอนแก่น ในสมัยนั้น พ.ศ 2473) ปี พ.ศ 2475 บ้านเมืองได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเจ้าคุณกัณหาจึงได้ส่งหลวงปู่วรพรตมาเป็นเจ้าอาวาสวัดจุมพล บ้านก้านเหลือง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น อายุการสร้างวัดจุมพล ประมาณ 150 ปี ในสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ 2480 หลวงปู่ได้สร้าง อุโบสถขึ้นมาใหม่ เสร็จเอาปี พ.ศ 2483 ค่าก่อสร้างเป็นเงิน 2,500 บาท ปูนชีเมนต์สมัยนั้นถุงละ 1.50 บาท ปี พ.ศ. 2482 หลวงปู่ได้ขอพระราชทาน พระปรมาภิไธย์ย่อ ของรัชการที่ 8 แต่พระองค์ท่านได้พระราชทานเหรียญพระฉายาลักษณ์ของท่านให้หลวงปู่วรพรต หลวงปู่ท่านเอาเหรียญนั้นติดไว้หน้าพระอุโบสถต่อจากนั้นมาหลวงปู่ก็ได้พัฒนาวัดจุมพลมาเรื่อยๆ ตลอดจนวัดต่างๆ ในอำเภอแวงน้อย และอำเภอพล (แต่ก่อนอำเภอแวงน้อยเป็นตำบล ขึ้นอยู่กับอำเภอพล) ในการสร้างพระอุโบสถและกุฎิ รวมทั้งศาลาการเปรียญ รวมทั้งสิ้น ประมาณ 30 หลัง ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ได้มีการขยายการปกครองออกไปอีก ทางการจึงตั้งตำบลแวงน้อยขึ้นเป็นอำเภอแวงน้อย หลวงปู่วรพรตวิธานจึงได้เป็นเจ้าคณะอำเภอแวงน้อยรูปแรก หลวงปู่ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมขลังมาก ได้เรียนวิชาอาคมมาจาก 5 อาจารย์ด้วยกัน เช่น หลวงศรีธรรมศาสตร์ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม หลวงปู่ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ จากอาจารย์ครีธรรมศาสตร์ จนเรียนจบเรียบร้อยแล้วก็ได้เดินทางไปศึกษาวิชาอาคมจาก พระอาจารย์ขันวัดท่าสะแบง ต.มะบ้า อ.ธวัชบุรี จ. ร้อยเอ็ด พระอาจารย์ขันวัดท่าสะแบงนี้ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมรูปหนึ่งในภาคอีสานในสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็นวิชาอาคมทางด้านเมตตามหานิยม, คงกระพันชาตรี, แคล้วคลาด, มหาอุต ป้องกันขับไล่ คุณไสย คุณผี คุณคน หลวงปู่วรพรตท่าน ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากพระอาจารย์ขันจนหมดสิ้น แล้วหลวงปู่ก็ได้ไปศึกษากับอาจารย์บ้านฟ้าเหลี่ยม อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด เกจิอาจารย์ดังองค์หนึ่งในสมัยนั้น ขนาดท่านปัสสาวะรดต้นไม้ เอาปืนยิงต้นไม้ ยังยิงไม่ออกแต่ก็ยังไม่พอความต้องการของหลวงปู่ หลังจากนั้นท่านก็ได้มุ่งหน้าไปศึกษากับ หลวงปู่ชม ฐานธัมโม แห่งวัดกู่ พระโกนา อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่าน หลวงปู่ชมรูปนี้ท่านมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถมาก มีอิทธิปาฏิหาริย์นานัปการ ท่านสามารถล่องหนหายตัวได้ หลวงปู่ชมท่านได้สร้าง วัดขึ้นบริเวณใกล้กับกู่โกนาอยู่ทางจะไป อ. ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะมุ้งไปเขมรต่ำ (ประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน) หลวงปู่ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมและวิปัสนากัมมัฏฐาน อยู่ 2 ปี เมื่อ พ.ศ. 2479 ท่านได้กราบลาหลวงปู่ชม ออกมุ่งหน้ามายัง จ. ขอนแก่น เพื่อกับวัดจุมพลของท่าน หลังจากที่ท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมจากพระอาจารย์ ต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้ออกเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต และได้แยกทางกันที่ อ. มัญจาคีรี จากนั้นหลวงปู่วรพรตท่านก็ได้เดินผ่านดงพญาเย็น-พญาไฟ ผ่านไปประเทศลาว พม่า เขมร เรื่องราวตอนที่ท่านเดินธุดงค์ ไปนั้นมีมากมาย ผจญทั้งสัตว์ร้ายและภูตผีปีศาจ แต่ท่านก็ผ่านอุปสรรคนั้นมาได้ หลวงปู่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ในสมัยรัชการที่ 8 มีพระราชทินนามว่า “พระครูวรพรตวิธาน” เราจึงเรียกติดปากว่า “หลวงปู่วรพรต” ตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏแก่สายตาของผู้คนเป็นครั้งแรก ก็คือ เรื่องหลวงปู่เหยีบรถกระดก (ลอยขึ้น) เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2503 หลวงปู่จะออกเดินทางจาก อ. พล จ. ขอนแก่น ด้วยรถโดยสารเพื่อจะไป จ.ร้อยเอ็ด รถคันที่หลวงปู่จะขึ้นเป็นรถสองแถวขนาดใหญ่ ตามธรรมดาโดยทั่วไปแล้วพระเณรจะต้องนั่งด้านหน้าติดกับคนขับ เพื่อจะได้ไม่ปะปนกับผู้โดยสารคนอื่น แต่รถคันนี้มีผู้หญิงนั่งเต็มอยู่ด้านหน้าแล้ว ด้านหลังรถยังพอมีที่นั่งได้ คนขับรถจึงบอกให้หลวงปู่ขึ้นทางท้ายรถ หลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติตามโดยดี แต่ก่อนจะขึ้นรถหลวงปู่ได้พูดกับคนขับรถว่า “รถจะไม่เดี่ยงหรือ”(เดี่ยงเป็นภาษาไทยอีสานแปลว่า “ กระดก”) คนขับก็บอกว่า “ไม่เดี่ยงแน่เพราะรถรับน้ำหนักได้หลายตัน” พอคนขับพูดจบ หลวงปู่ก็ก้าวเท้าขึ้นรถ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นทันที ด้านหน้ารถลอยขึ้น เหมือนมีมือยักษ์มาจับยกขึ้น คนขับรถเห็นเช่นนั้นถึงกับตกตะลึงจึงกราบนิมนต์หลวงปู่มานั่งด้านหน้า โดยให้พวกผู้หญิงไปนั่งด้านหลัง ตั้งแต่นั้นมาสมญานาม “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง” จึงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในเขตขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา ต่างก็รู้เรื่องกันดี เคยมีญาติโยมที่อยู่ไกลถึง จ. กระบี่ เดินทาง มากราบขอคาถาเหยียบรถกระดกจากท่าน ท่านก็มอบคาถานะโมพุทธายะให้ไป แต่จะทำได้เหมือนหลวงปู่หรือเปล่าไม่ทราบ
ราคาปัจจุบัน
แทน วังโตโย
จำนวนผู้เข้าชม
1737 ครั้ง
สถานะ
ขายแล้ว
โดย
ชื่อร้าน
วังโตโย
URL
เบอร์โทรศัพท์
0831510054
ID LINE
ID LINE 0831510054
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี