*** ร้อนแรงถึงต่างประเทศ #มหาเวทย์ #เมตตาค้าขาย #ขุนแผนฉลองกุฏิวัดตาอี บารมีหลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด ***
...นอกจากขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง ขุนแผนพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไล่ อันลือลั่น ประสบการณ์มากมายแล้ว โดยส่วนตัวเองก็มีขุนแผนรุ่นนี้ ของหลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด ที่อัศจรรย์สุดยอดพุทธคุณด้าน มหาเมตตา-มหาเสน่ห์-มหานิยม ค้าขายดีมีทรัพย์รับโชค ได้อย่างชัดเจน แบบไม่ต้องไปเช่าหาขุนแผนราคาแพง แต่ใช้แทนกันได้ดีเรยทีเดียว ของดีที่ต้องมีไว้ใช้ ที่สำคัญเล่นง่าย เก็บได้ ราคา(ยัง)ไม่แพงมาก ให้ทั่วประเทศรู้ว่าบ้านเรามีดี++

(พ่อแผนเนื้อก้นครกเต็มสูตร)..."องค์มังกรหยก"
...ขุนแผนองค์นี้ เนื้อก้นครกเต็มสูตร(นิยมสุดในโซนก้นครก) มวลสารก้นครกแก่ไพลดำ เนื้อพระก้นครกออกเขียวมรกตโซนนี้ จะแก่มวลสารว่านไพลดำและมวลสารหลักคือ สูตรดินเพียง สูตร7ป่าช้าสายธรรมะ ว่านรวมต่าง หินพลอย ของมงคลครูบาอาจารย์ เป็นมวลสารตั้งต้นหลัก *แล้วถึงนำไปผสมมวลสารอื่นเพิ่มเติมเพื่อให้ได้เป็นสีอื่นเนื่ออื่นขึ้นมา (เนื้อพระสูตรนี้ทำได้ยากมากและแทบไม่มีใครทำได้ แต่ถ้าทำได้แบบขุนแผนชุดนี้ ก็จะก่อเกิดอัศจรรย์ เรียกเงินทอง รับโชคโภคทรัพย์ อธิฐานเสี่ยงทาย ขอได้ไหว้รับ แบบที่ต้องบูชาดูแล้วจะรู้เอง) ในรุ่นฉลองกุฏิ วัดตาอี หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด ท่านดำริให้จัดสร้างเอง และมอบมวลสารเสกมาให้เป็นพิเศษ.
จึงโดดเด่นเป็นเอกอุ มหาเวทย์เมตตามหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม ส่วนด้านค้าขายอุดมโชคโภคทรัพย์ แคล้วคลาดปลอดภัย ก็มีครบเครื่อง
*** พระอาจารย์หงุ่น วัดตาอีท่านให้ว่า "เมกะมะอุ" 3จบ 7จบ และใช้ดอกไม้ขาวบูชาคุณพระ ***

ขุนแผนฉลองกุฏิ(มหาเวทย์) วัดตาอี หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวดปลุกเสก จัดสร้างน้อยเพียง 2000 องค์ เนื้อผงพุทธคุณล้วนๆ ว่าน108 ผงมะขามพันปี ผงไม้พยุง โป่งขาว เมืองบุรีรัมย์ โป่งดำ เมืองบึงกาฬ โป่งแดง เมืองกาฬสิน สีผึ้งอาจารย์หงุ่น วัดตาอี นิลดำหรือไหลดำจากภูควาย-วัวประเทศลาว ขมิ้นขาวปัดตลอด ไพลใจดำ งากระเด็น ดินสามประเทศ ผงธูปจากสถานศักดิ์ประเทศอินเดีย กิ่งต้นพระศรีมหาโพธิ์ คำหมากหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตราด สูตรเจ็ดป่าช้า เกศาครูบาสายกรรมฐาน ผงเก่าหลวงพ่อเงินบางคลาน ผงเก่าร้อยปีของพระอาจารย์ฝั้น เพชรหน้าทั่ง ผงไม้ดำจากภูวัว ภูควาย สูตรดินเพียง มวลสารผงพุทธคุณหลวงพ่อทองคูน มวลสารและผงพุทธคุณหลวงพ่อทองทิพย์ จังหวัดบึงกาฬ และมวลสารหลักคือ ชานหมากของหลวงปู่ผาดผสมโลหิตหลวงปู่ผาด เส้นเกศา เล็บมือ เล็บเท้า หนวด ของหลวงปู่ผาด มวลสารพระพุทธชันตรี และข้าวเสกที่หลวงปู่ผาด ท่านเสกมาให้เพื่อสร้างขุนแผนนี้โดยเฉพาะ ถือเป็นสุดยอดมวลสารจริงๆ
...ขุนแผนรุ่นนี้จึงเป็นพระขุนแผนที่หลวงปู่ผาดได้ตั้งใจดำริให้จัดสร้างขึ้น เพื่อสร้างกฏิให้แล้วเสร็จ และซ่อมแซมเสนาสนะในวัดบ้านตาอี และให้ลูกศิษย์มีของดีเป็นมงคลใว้ใช้ติดตัวกัน จำนวนการสร้าง 2000 องค์ ถือเป็นขุนแผนรุ่นสุดท้ายของท่าน ขุนแผนรุ่นนี้จบครบ พิมพ์ทรงสวยงาม ทั้งมวลสารเยี่ยม การทำลายบล็อค จำนวนชัดเจน เจตนาสร้างดี และการปลุกเสกถึง 2 ครั้ง(พิธีเหรียญหล่อมหาเศรษฐี) กับอีก 1 ไตรมาส และยังเข้มด้วยพุทธคุณของหลานหลวงพ่อศิษย์สายตรงผู้สืบทอดคำภีร์ใบลานอย่างรู้แจ้งและรู้จิง พระอาจารย์ หงุ่น ฉลพินโญฺ เจ้าอาวาสวัดตาอี ผู้ดำเนินการจัดสร้างอย่างดีสุด พุทธคุณแรงด้านมหาเสนห์ เมตตามหานิยม แบบต้องใช้ดูแล้วจะรู้เอง

"หลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ" หรือ "พระครูวิบูลย์ปัญญาวัฒน์" เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือ ได้รับการยกย่องว่า "เทพเจ้าแห่งบ้านกรวด" "นักบุญแห่งอีสานใต้" เป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าอีกรูปของอีสานใต้ เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2452 ท่านได้ชื่อว่าเป็นพระปฎิบัติดี ตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรม มีวัตรปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ท่านละสังขาร มรณะภาพลงเมื่อช่วงเวลา 11.58 น.ของวันที่ 5 มกราคม 2558 ด้วยสิริอายุ 105 ปี 8 เดือน 2 วัน พรรษา 85 พรรษา นับเป็น 1 ใน 10 เกจิอาจารย์ที่อายุยืนที่สุดในประเทศไทย

(วัดบ้านกรวด)...เป็นวัดเก่าแก่ประจำอำเภอบ้านกรวด ตั้งขึ้นในปลายราชการที่ 5 แห่งราชวงค์จักรีมีอายุนับถึงปัจจุบันไม่น้อยกว่า 120 ปี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 10 เมษายน พุทธศํกราช 2469 มีพระพุทธรูปศิลาอันศักดิ์สิทธิ์เป็นประธานในพระอุโบสถ มีเจ้าอาวาสครองวัดติดต่อกันมานาน นับถึงปัจจุบัน 4 รูปด้วยกันเจ้าอาวาสปัจจุบันคือ พระครูวิบูลย์ปัญญาวัฒน์ หลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ ซึ่งได้บวชเรียนมาตั้งแต่อายุ 22 ปี เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน 98 ปี นับพรรษาได้ 77 พรรษาเมื่อครั้งอดีตสมัยท่านเป็นพระหนุ่มๆ ท่านได้ออกจาริกแสวงบุญไปยังที่ต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้ทั้งทางพระเวทย์ วิชาแผนโบรานต่างๆ ตามความเชื่อและความนิยมของชาวพื้นบ้าน ในสมัยนั้นได้ไปศึกษาเล่าเรียนเวชวิทยาคมที่จังหวัดอุดรมีชัยถึง 3 ปี (ในสมัยนั้นจังหวัดอุดรมีชัยยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย) จากนั้นท่านได้จาริกไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ แทบจะทุกภาคของไทยและประเทศใกล้เคียง เคยธุดงค์ไปศึกษาวิชาอาคมที่นครวัด ที่ประเทศเขมรเป็นเวลา 8 ปี จนมีความรู้เจนจบในไสยเวททุกแขนง แตกฉานในวิปัสสนากรรมฐานอย่างแจ่มแจ้ง ต่อมาเมื่อท่านอายุมากขึ้น ท่านได้รับถวายที่ดินจากชาวบ้าน จากนั้นท่านก็ได้บูรณะจากพื้นดินเปล่าจนเป็นวัดตาอี ให้เห็นเป็นรูปธรรมในปัจจุบันนี้ สืบต่อมาหลวงปู่หริ่ง เจ้าอาวาสวัดบ้านกรวดได้มรณภาพลง ชาวอำเภอบ้านกรวดจึงให้นิมนต์หลวงปู่ผาด มาเป็นเจ้าอาวาส แต่หลวงปู่ได้ปฎิเสธการเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านกรวดมาโดยตลอด แต่ในที่สุดท่านก็ทนความศรัทธาของญาติโยมไม่ไหวจึงต้องยอมรับเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านกรวด และดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบันในที่สุด หลวงปู่ผาดท่านได้พัฒนาวัดสาขาของท่านถึง 4 แห่ง ก็คือ วัดตาอี,วัดบ้านประสาท,วัดบึงเก่าและวัดบ้านกรวด เป็นรูปเป็นร่างมาจนถึงปัจจุบัน หลวงปู่ผาดท่านเป็นพระที่รักสันโดษ ไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญ ท่านได้ปฎิเสธในการสร้างวัตถุมงคลมาโดยตลอด แต่ในไตรมาสปี 2551 ท่านได้อนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคล ที่ออกมาในนามวัดบ้านกรวด เพื่อนำปัจจัยไปสร้างโรงครัว หลวงพ่อผาดท่านได้ออกวัตถุมงคลมาน้อยมาก ดังนั้นคนที่มีอยู่ต่างหวงแหนไม่ค่อยหลุดออกมาให้เห็น ทำให้วัตถุมงคลของท่านรุ่นเก่าๆ ของท่านก็หายากขึ้นเป็นเงาตามตัว ด้วยหลวงปู่ผาดท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นเนื้อนาบุญของพระพุทธศาสนา โดยแท้ทุกลมหายใจเข้าออกกำหนดจิตด้วยกรรมฐานมีสติอยู่เสมอ วัตถุมงคลที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่านจึงทรงความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ ดุจมีแก้วสารพัดนึก ใครมีโอกาสได้ครอบครองให้เก็บไว้บูชาดีๆ เพราะท่านเคยพูดกับลูกศิษย์บ่อยๆว่าง “อีกหน่อยพระของเราจะเป็นเพชร”จากอมตะวาจาของหลวงปู่อนาคตจึงต้องไม่ต้องพูด เป็นที่ทราบกันดีว่า หลวงปู่ท่าน “วาจาสิทธิ์”เป็นยิ่งนัก เอาเป็นว่าอนาคตอันใกล้คงได้เห็นอย่างแน่นอน เดียวนี้ไม่ต้องรอนานเหมือนอดีต “ของดี”มีประสบการณ์ประเดี่ยวก็มีคนถามหากันเอง หลวงปู่ผาด ท่านเป็นพระเจ้าแท้ที่กราบไหว้ได้สนิทใจ พระภิกษุอย่างหลวงปู่ผาด บารมีของท่านสูงเป็นอย่างยิ่ง กิตติคุณความเป็นผู้ทรงวิทยาคม
...แม้แต่ นักบุญแห่งภาคอีสานเจ้าตำรับ “ กู-มึง ” ขนานแท้ อย่างหลวงพ่อคูณ ยังกล่าวยกย่องเชิดชูกับคณะศรัทธาจากอำเภอบ้านกรวด ที่ได้เดินทางไปกราบนมัสการท่านที่วัด เมื่อท่านสอบถาม รู้ความว่าเดินทางมาจากอำเภอบ้านกรวด ท่านถึงออกปากพูดว่า “มึงจะมากราบมาเอาของกูทำไม มึงไปไหว้หลวงพ่อใหญ่ วัดบ้านกรวดโน่น ของท่านศักดิ์สิทธิ์กว่าของกูตั้งเยอะ พวกมึงไม่จำเป็นมาใช้ของกูเลย ของดีอยู่กับท่านยังไม่รู้ค่าอีก” สำหรับประโยคคำพูดจากปากยอดพระเกจิอาจารย์ที่ประชาชนเคารพกราบไหว้ทั้งประเทศยืนยัน คุณวิเศษในองค์หลวงปู่ผาดได้อย่างดี

...ซึ่งที่มาเริ่มศึกษาและสะสมหลวงปู่ผาด นอกจากเป็นพระเกจิอาจารย์ทรงคุณของเมืองบุรีรัมย์แล้ว ก็เนื่องจากศรัทธาในหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่มาก่อน และได้ทราบว่านอกจากหลวงปู่ทิมแล้ว ก็มีหลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวดนี่เอง ที่อาจารย์ชินพรนับถือเป็นอย่างมากเสมือนหลวงปู่ทิมเลยทีเดียว คุณชินพรไปสัมผัสพระเกจิมาเยอะแต่จะไม่นำพระเครื่อง วัตถุมงคลโดยเฉพาะรูปหลวงปู่ทิม ให้ใครเสกง่ายๆ หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด เป็นพระที่ไปสัมผัสมาแล้วยอมรับนับถือ ...แม้แต่หลวงปู่ธรรมรังษี ท่านยังยกย่อง กระดาษยันต์สารพัดกัน รุ่นมหาปราบ ปี ๒๕๔๖ ซึ่งมีประสบการณ์เยอะ ช่วยให้รอดจากน้ำป่าทะลักท่วมบ้าน โดยกระดาษยันต์ รุ่นนี้ผมนำไปขอให้หลวงปู่ผาด ปลุกเสก แล้วได้ไปกราบหลวงปู่ธรรมรังษี จึงขอให้ท่านเสกให้อีกท่าน แต่ท่านปฏิเสธ บอก "เขาทำไว้ดีแล้วเต็มหมดแล้ว" จนต้องบอกว่า ได้ทำรูปหลวงปู่ธรรมรังษีต่างหากมาด้วย ท่านจึงยอม เจริญมนต์ พรมน้ำพุทธมนต์ให้
...คุณชินพรรู้จักหลวงปู่ผาด ท่านนานแล้ว นำพระเครื่องไปขอให้ปลุกเสกเรื่อยมานับตั้งแต่ วัตถุมงคลชุดชินบัญชร รุ่นมหาปราบ ปี ๒๕๔๖ ,ขุนแผนสากหัก ,และทุกรุ่นนับจากนั้น และต่างก็มีประสบการณ์ และมีคนศรัทธาแสวงหามากมาย
______________________________________________________________________________________________________________________________

อานุภาพแรงกล้า "เมตตามหานิยม"...
กาลเวลาที่ผ่านมานาน มีผู้ประสบกับความสักดิ์สิทธิ์ความขลัง ของพระเครื่องพิมพ์บ้านกร่างมาบอก เล่าเก้าสิบกันถึงเรื่องเสน่ห์ มีพุทธคุณทางเมตตามหานิยมมีความขลังทางการเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ การค้าขายดี มีจิตใจกันเอง แม้จะเป็นคนที่ไม่ชอบขี้หน้ากันมาแต่ก่อนก็มีความเข้าใจกันดีขึ้นไม่โกรธ เกลียดกัน...

...มาวิเคราะห์ถึงพระเครื่องที่มีชื่อว่า "พระขุนแผน" กันบ้าง การจัดสร้างพระเครื่องนี้ ผู้เขียนคิดว่าในครั้งเก่าก่อนนั้นเกจิอาจารย์จะต้องกำหนดชื่อเอาไว้อย่าง แน่นอน แล้วต้องเป็นชื่อที่ดี เหมาะสมและเป็นสิริมงคล แต่เราท่านในยุคสมัยนี้ไม่ทราบเพราะไม่มีหลักฐานปรากฏก็เลยมาตั้งชื่อเอาเอง ทีหลัง ตั้งเอาตอนได้มองเห็นองค์พระเครื่องเล็กๆนี้แล้วซึ่งในช่วงเวลานั้นก็ยังไม่ แน่นอนอะไร ก็เรียกกันไปว่า "พระพิมพ์บ้านกร่าง" หรือ "พระพิมพ์ซุ้มเรือนแก้วบ้านกร่าง" ว่ากันไปตามที่มองเห็นรูปลักษณ์ขององค์พระเครื่องพิมพ์นี้

...เพระพุทธคุณที่มีอยู่ในองค์พระเครื่องพิมพ์นี้จากบ้านกร่างหรือวัดบ้านกร่าง เป็นไปในทาง เมตตามหานิยม มีเสน่ห์ ไม่มีใครเกลียด มีแต่ผูกไมตรีกับใครๆก็ได้นั่นเอง พูดจากับใครก็ได้ผลดี ค้าขายอะไรก็ง่าย คล่องตัวไปหมด "พระขุนแผน" เลยมีความหมายเป็นพระเครื่องที่มีพทธคุณทางเสน่ห์ มหาเสน่ห์ สิริมงคล เมตตามหานิยมชั้นสูงเป็นลำดับแรก ตามมาด้วยพุทธคุณอื่นๆอีก เป็นต้นว่าแคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพันชาตรี และอื่นๆในทางที่ดีงามทั้งหลาย อยู่เย็นเป็นสุข ประสบโชคชัยสวัสดีเสมอ

...แต่เรื่องเมตตามหานิยม เสน่ห์ ที่มีอยู่นั้นดูเหมือนสร้างความตื่นเต้นให้กับบรรดาหนุ่มๆและไม่หนุ่มทั้ง หลายกันมาก พูดกันไม่รู้จักหยุดหย่อน ใครๆในวงการพระเครื่องมองเห็นพระเครื่องแบบพิมพ์นี้จากวัดบ้านกร่าง เมืองสุพรรณบุรี แล้วก็นึกถึงเรื่องนี้ก่อนทันที "พระขุนแผนบ้านกร่าง" ชื่อเลยติดริมฝีปากกันมากระทั่งทุกวันนี้ เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของพระเครื่องพิมพ์คล้ายๆกัน มีพุทธคุณที่เป็นแบบเดียวกัน เลยกลายเป็น "พระขุนแผนไข่ผ่าซีก" และ "พระขุนแผนเคลือบ" กันไป รวมพระขุนแผนอื่นๆอีก

ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน