พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
พระว่านยาสัก...
พระว่านยาสัก
*ข้อมูลจากเจ้าของเดิม*มหาว่านยาโบราณล้านนาพญาปุริศาจกินผี หรือไทใหญ่ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ว่านยาสักล้านนา" ประก่อบว่านต่างๆ ที่มีอานุภาพทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม ดีทางโภคทรัพย์ เป็นสิริมงคลต่อผู้ครอบครองมหาว่านยาพม่านี้แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้5กลุ่ม คือยาพระ ยาเทวดา ยายักษ์ ยาผีและยารูปสัตว์(ยาชน)ซึ่งทั้งหมดนี้ส่วนใหญ่จะรวมเป็นสายยา ปถมังสิทธิ (ยาดำ)ยายักษ์นั้นใช้ในด้านการแก้อาถรรพ์ ถอนอาถรรพ์ กันผีกันสางกันของไม่ดีต่าง สับยันต์ ผสมของ ใช้อาบน้ำปรับธาตุ ครอบจักรวาลครับทั้งนั้นทั้งนี้ก็แล้วแต่ชนิดยานั้นๆด้วย ปัจจุบันนี้ศาสตร์ในการสร้างยาของทางพม่าสูญหายไปตามกาลเวลามากขึ้น เหลือเพียงไม่กี่สำนักที่จะสำเร็จและสามารถสร้างยาขยายยาเป็นของตัวเองได้เพราะในตัวยาต่อองค์กว่าจะสร้างได้เสร็จนั้นต้องใช้มนตราและเวลาตลอดทั้งชีวิตของผู้สร้างจึงทำให้เป็นเครื่องรางอย่างหนึ่งที่มีฤทธีมากและนับวันก็ยิ่งสูญหายและหมดไป ถ้าจะกล่าวถึงการใช้ว่านในเมืองไทย "ว่านกับคนไทย" มีความผูกพันกันมาแต่โบราณกาลแล้ว ชาวสุวรรณภูมิ เชื่อถือเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของพืชพันธ์บางชนิด ดังเช่นตำราว่านหลักของไทยเราเรียกว่า "กบิลว่าน" คำว่า "กบิลว่าน" นั้น น่าจะมีที่มามาจาก "ว่านของกบิลฤาษี" ว่านถูกนำมาใช้ในหลายรูปแบบด้วยกัน เช่นการอาบว่านยา ที่โด่งดังในเมืองไทยคือการ "อาบว่านยาในสายเขาอ้อ" ซึ่งมีกรรมวิธีที่ซับซ้อนมาก การนำว่านมาใช้อีกแบบคือการนำมาสัก เป็นวัฒนธรรมการสักของไทยใหญ่ล้านนา และลาว การนำว่านหรือยาไปใช้ของคนโบราณ อาจพกต้นสดหรือตากแห้ง หรือใช้กรรมวิธีอื่นในการถนอมยาเป็นต้นว่าทำการเคี่ยวหุงผสมเป็นสีผึ้ง หรือ แช่ในน้ำมัน แต่วิวัฒนาการขั้นสูงของมันคือการทำเป็น "ยาแท่ง" ดังเช่น "ยาสัก" ก็เป็นยาแท่งรูปแบบหนึ่งที่คณาจารย์รุ่นเก่าโบราณของล้านนา หรือฤาษี หรือว่าอาจจะเป็นหมอพระ พ่อหมอยาโบราณได้จัดทำไว้บ้างก็นำมาแกะเป็นรูปเคารพต่างๆ เช่นนำมาสร้างเป็นรูปพระพุทธ, ยักษ์, หรือเทพต่างๆ ในวรรณคดีแล้วลงรักลงชาดรักษาไว้ พกพาเป็นเครื่องรางของขลังแล้ว ยังมีลักษณะที่เก็บไว้ใช้เหมือน "ยาแท่ง" นับเป็นภูมิปัญญาในการเก็บรักษาว่านยา จึงไม่แปลกอะไรที่เราจะเห็นว่านยาสักที่เป็นรูปเคารพต่างๆ มีรอยบิ่นจากการฝน รอยคว้านแคะนำไปผสมหมึกสัก ฝนทา ฝนกิน เป็นยาสารพัดแก้ ส่วนของภาคกลางมีเช่นกัน คือ "ยาจินดามณี" ทางสายนครปฐมนั้นเองครับ
ผู้เข้าชม
1438 ครั้ง
ราคา
-
สถานะ
บูชาแล้ว
โดย
painana
ชื่อร้าน
ปายนานาพระเครื่อง
ร้านค้า
painana.99wat.com
โทรศัพท์
0841732332
ไอดีไลน์
painanapra
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงเทพ / 587-0-65558-5
พระแก้วมรกต
นางกวักล้านนา
พระกรุบางยี่หน+ใบ
พระนาดูน+บัตร
นาคปรกวัดปืน
พระโคนสมอสวยๆ
พระคง1200ปี
งาแกะสวยๆ
ป-ทวด49
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
BAINGERN
hopperman
ยิ้มสยาม573
เสือรากไทร
sorasak
ปาล์ม บารมีเครื่องราง
พีพีพระเครื่อง
โกหมู
เทพจิระ
ep8600
Muthita
เปียโน
someman
นรินทร์ ทัพไทย
นานา
เนินพระ99
หริด์ เก้าแสน
jocho
termboon
ส่องพระเครื่อง789
เจริญสุข
mon37
Erawan
0949163342
ภูมิ IR
ponsrithong2
ponsrithong
aithanya
ผดุงศักดิ์
ยอด วัดโพธิ์
ผู้เข้าชมขณะนี้ 1513 คน
เพิ่มข้อมูล
พระว่านยาสัก
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
พระว่านยาสัก
รายละเอียด
*ข้อมูลจากเจ้าของเดิม*มหาว่านยาโบราณล้านนาพญาปุริศาจกินผี หรือไทใหญ่ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ว่านยาสักล้านนา" ประก่อบว่านต่างๆ ที่มีอานุภาพทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม ดีทางโภคทรัพย์ เป็นสิริมงคลต่อผู้ครอบครองมหาว่านยาพม่านี้แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้5กลุ่ม คือยาพระ ยาเทวดา ยายักษ์ ยาผีและยารูปสัตว์(ยาชน)ซึ่งทั้งหมดนี้ส่วนใหญ่จะรวมเป็นสายยา ปถมังสิทธิ (ยาดำ)ยายักษ์นั้นใช้ในด้านการแก้อาถรรพ์ ถอนอาถรรพ์ กันผีกันสางกันของไม่ดีต่าง สับยันต์ ผสมของ ใช้อาบน้ำปรับธาตุ ครอบจักรวาลครับทั้งนั้นทั้งนี้ก็แล้วแต่ชนิดยานั้นๆด้วย ปัจจุบันนี้ศาสตร์ในการสร้างยาของทางพม่าสูญหายไปตามกาลเวลามากขึ้น เหลือเพียงไม่กี่สำนักที่จะสำเร็จและสามารถสร้างยาขยายยาเป็นของตัวเองได้เพราะในตัวยาต่อองค์กว่าจะสร้างได้เสร็จนั้นต้องใช้มนตราและเวลาตลอดทั้งชีวิตของผู้สร้างจึงทำให้เป็นเครื่องรางอย่างหนึ่งที่มีฤทธีมากและนับวันก็ยิ่งสูญหายและหมดไป ถ้าจะกล่าวถึงการใช้ว่านในเมืองไทย "ว่านกับคนไทย" มีความผูกพันกันมาแต่โบราณกาลแล้ว ชาวสุวรรณภูมิ เชื่อถือเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของพืชพันธ์บางชนิด ดังเช่นตำราว่านหลักของไทยเราเรียกว่า "กบิลว่าน" คำว่า "กบิลว่าน" นั้น น่าจะมีที่มามาจาก "ว่านของกบิลฤาษี" ว่านถูกนำมาใช้ในหลายรูปแบบด้วยกัน เช่นการอาบว่านยา ที่โด่งดังในเมืองไทยคือการ "อาบว่านยาในสายเขาอ้อ" ซึ่งมีกรรมวิธีที่ซับซ้อนมาก การนำว่านมาใช้อีกแบบคือการนำมาสัก เป็นวัฒนธรรมการสักของไทยใหญ่ล้านนา และลาว การนำว่านหรือยาไปใช้ของคนโบราณ อาจพกต้นสดหรือตากแห้ง หรือใช้กรรมวิธีอื่นในการถนอมยาเป็นต้นว่าทำการเคี่ยวหุงผสมเป็นสีผึ้ง หรือ แช่ในน้ำมัน แต่วิวัฒนาการขั้นสูงของมันคือการทำเป็น "ยาแท่ง" ดังเช่น "ยาสัก" ก็เป็นยาแท่งรูปแบบหนึ่งที่คณาจารย์รุ่นเก่าโบราณของล้านนา หรือฤาษี หรือว่าอาจจะเป็นหมอพระ พ่อหมอยาโบราณได้จัดทำไว้บ้างก็นำมาแกะเป็นรูปเคารพต่างๆ เช่นนำมาสร้างเป็นรูปพระพุทธ, ยักษ์, หรือเทพต่างๆ ในวรรณคดีแล้วลงรักลงชาดรักษาไว้ พกพาเป็นเครื่องรางของขลังแล้ว ยังมีลักษณะที่เก็บไว้ใช้เหมือน "ยาแท่ง" นับเป็นภูมิปัญญาในการเก็บรักษาว่านยา จึงไม่แปลกอะไรที่เราจะเห็นว่านยาสักที่เป็นรูปเคารพต่างๆ มีรอยบิ่นจากการฝน รอยคว้านแคะนำไปผสมหมึกสัก ฝนทา ฝนกิน เป็นยาสารพัดแก้ ส่วนของภาคกลางมีเช่นกัน คือ "ยาจินดามณี" ทางสายนครปฐมนั้นเองครับ
ราคาปัจจุบัน
-
จำนวนผู้เข้าชม
1460 ครั้ง
สถานะ
บูชาแล้ว
โดย
painana
ชื่อร้าน
ปายนานาพระเครื่อง
URL
http://www.painana.99wat.com
เบอร์โทรศัพท์
0841732332
ID LINE
painanapra
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงเทพ / 587-0-65558-5
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี