พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
สีผึ้งหลวงพ่อทา...
สีผึ้งหลวงพ่อทาบ
สีผึ้งหลวงพ่อทาบ มาพร้อมเลี่ยมทอง*ประสบการณ์สีผึ้งหลวงพ่อทาบ เมตตาขนาด
แค่หัวไม้ขีดหากันจนพลิกแผ่นดิน!!
หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง หรือพระครูอรรถโกศล เป็นคนระยองโดยกำเนิด เกิดที่บ้านนาตาขวัญ ต. นาตาขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เมื่อวันศุกร์ เดือนหก ปีฉลู ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๒๐ ท่านเป็นเพื่อนสนิทกับหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ วิชาของทั้งสองท่าน ว่ากันว่ากินกันไม่ลง ประเด็นสำคัญคือวิชาของหลวงปู่ทาบที่เลื่องลือว่าสุดยอดคือวิชาสีผึ้งเขียว
การขอรับสีผึ้งจากหลวงพ่อทาบในสมัยก่อน สำหรับผู้ที่จะมาขอสีผึ้งเขียวของท่านนั้น กว่าจะได้ก็แสนจะลำบากยากเย็น เล่ากันว่าผู้ต้องการจะได้สีผึ้งเขียวของท่านจะต้องมานอนค้างคืนกันที่วัดหลาย ๆ คืน และหลาย ๆ ครั้ง จนหลวงพ่อทาบเห็นความมานะอดทนว่า ต้องการได้จริง ๆ ท่านจึงจะให้ แต่ท่านจะหยิบให้เพียงเท่าหัวไม้ขีดไฟเท่านั้น สีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบเมื่อใครได้มาแล้วเหมือนกับได้ของวิเศษที่เปี่ยมไปด้วยส่วนผสมแห่งเมตตามหานิยม คนเล่นของในสมัยนั้นจึงนำสีผึ้งหลวงพ่อทาบที่ได้มาเพียงแค่หัวไม้ขีดไฟมาเลี่ยมทองหุ้มใส่สายสร้อยหรือแขวนติดตัว แต่ก่อนจะมอบสีผึ้งเขียวให้แก่ผู้ใด หลวงพ่อทาบจะสั่งสอนวิธีใช้ให้ สำหรับเรื่องผู้หญิงนั้น ถ้าจะใช้สีผึ้งนี่ก็ขอให้ใช้เมื่อจำเป็นจริง ๆ ได้เขาสมใจแล้วก็อย่าไปทิ้งไปขว้าง มิเช่นนั้น จะเกิดวิบัติ
นักเลงรุ่นเก่าชาวระยองยอมรับว่าสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบนั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง ท่านผู้เฒ่าท่านหนึ่งใน ต.ตาสิทธิ์ ติดกับวัดหลวงปู่ทิมเล่าให้ผู้เขียนฟังว่าเมื่อสมัยหนุ่ม ๆ ข้าก็ได้อาศัยสีผึ้งเขียว ของหลวงพ่อทาบนี่แหละ จึงได้แม่อ้ายยอด มาจนทุกวันนี้ แม่อ้ายยอดเมื่อสาวๆ มันสวยอย่าบอกใครเชียว หนุ่ม ๆ มาจีบกันหัวกระไดแทบไม่แห้ง แต่ลุง (ตัวคนเล่า) มันพูดจาไม่เก่ง รูปก็ไม่หล่อ แรกๆแม่อ้ายยอดไม่เคยมองลุงเลย ความที่อยากเอาชนะไอ้พวกหนุ่มรุ่นเดียวกัน ลุงจึงดั้นต้นไปขอสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ ไปก็หลายครั้งหลายหนอยู่จนท่านจำได้และเห็นมาบ่อย ๆ หลวงพ่อทาบท่านเลยสงสารควักให้มาหัวไม้ขีดหนึ่งสั่งว่าเพียงเอาห่อติดตัว เวลาจะใช้กับผู้หญิงคนใดก็เพียงแต่ทำใจให้นึกเห็นใบหน้าเขาและเข้าไปหาเถอะไม่ช้าก็สำเร็จ และก็ได้ผลจริงๆไม่นานแม่อ้ายยอดเกิดสงสารเห็นใจลุง ทั้งที่ก่อนนั้นเขาไม่เคยชายตามองลุงเลย พวกหนุ่มบ้านอื่นงงเป็นไก่ตาแตก
ท่านผู้เฒ่าเล่าเสริมต่อไปว่า หลังจากได้แม่อ้ายยอดมาเป็นเมียและอยู่กับมาจนบัดนี้แล้ว ลุงเคยถามเขาว่า เพราะเหตุใดจึงเกิดมารักลุง ทั้งๆ ที่แต่แรกไม่เคยสนใจลุงเลย แม่อ้ายยอดบอกกับลุงว่าเป็นเพราะอะไรไม่รู้ วันไหนถ้าไม่เห็นหน้าลุงใจคอมันหงุดหงิด ร้อนรุ่ม พอได้เห็นหน้าลุงแล้วสบายใจ และไม่ช้าลุงก็ชวนมันมาอยู่กับลุงเสียเลย ผมได้ถามลุงผู้เฒ่าว่า แล้วสีผึ้งนั้นอยู่ไหน? ขอผมดูหน่อย ท่านผู้เฒ่าบอกว่า เมื่อลุงได้เมียแล้วก็ไม่ได้ใช้อีกเลย เพราะหลวงพ่อท่านสั่งนักสั่งหนาว่าถ้าใช้กับผู้หญิงแล้วต้องเลี้ยงเขาเป็นลูกเมีย ห้ามทิ้งขว้าง ลุงได้แม่อ้ายยอดมาครองคนเดียวก็นับว่าพอใจแล้ว เลยหุ้มทองเก็บไว้ จนอ้ายยอดลูกหัวปีของลุงมันเป็นหนุ่มแล้ว ลุงจึงมอบให้มัน ก็ดูซิอ้ายยอดลูกชายลุงมีเมียตั้ง ๓ คน และอยู่บ้านเดียวกันทั้งนั้น หลานลุงมีเป็นพรวน มีเมียมากมันก็ไม่ดีหรอกหลาน หาเท่าไรไม่พอเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย แต่ก็ดีไปอย่าง อ้ายยอดมันได้เขาแล้วมันก็ไม่ทิ้งไม่ขว้าง เลี้ยงเป็นลูกเป็นเมียทุกคน อ้ายยอดลูกลุงน่ะ มันไม่เท่าไหร่หรอก มีเพียงแค่ ๓ คน เท่านั้น แต่ลูกศิษย์หลวงพ่อทาบที่เคยบวชอยู่กับท่านคนหนึ่งซิ เดี๋ยวนี้ย้ายไปอยู่จันทบุรี มีเมียอยู่บ้านเดียวกันถึง ๖ คน ทุกคนปรองดองกันดี ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันเลย แต่ลูกเป็นกระบุง แต่เขาก็มีฐานะดีนะ เรื่องสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบ ถ้าใช้เรื่องผู้หญิงรับรองได้เยี่ยมจริง ๆ
ท่านพระอาจารย์เสียน มนูญโญ เจ้าอาวาสวัดกระบกขึ้นผึ้ง ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของหลวงทาบ ตลอดจน คุณปถม อาจสาคร อดีตสหกรณ์อำเภอบ้านค่าย และคุณประชา ตรีพาสัย เพื่อนผู้เขียนซึ่งจูงใจให้ผู้เขียนไปรู้จักกับหลวงปู่ทิมจนได้สร้างพระชุดชินบัญชรอันเป็นที่รู้จักกันทุกวันนี้ เคยเล่าเรื่องอานุภาพของสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันแพร่หลายทั่วจังหวัดระยองให้ฟังว่า
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ จ.ระยอง ได้จัดให้มีการประกวดนางสาวระยองขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อคัดคนส่งไปประกวดนางสาวไทยที่กรุงเทพฯ ในงานรัฐธรรมนูญที่วังสราญรมย์ อ. บ้านค่าย ก็สรรหาสาวงามส่งเข้าชิงชัยตำแหน่งนางสาวระยอง เหมือนกับอำเภออื่น ๆ เช่นกัน เมื่อได้สาวงามชาวอำเภอบ้านค่ายแล้ว ทางอำเภอก็นำสาวงามผู้นั้นมาขัดสีฉวีวรรณแล้วสอนกิริยามารยาทจนเป็นที่เรียบร้อย พอใกล้วันประกวดนางงามระยอง เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ก็เกิดขึ้น สาวงามซึ่งจะเป็นตัวแทนสาวบ้านค่ายขึ้นเวทีประกวด เกิดสิวเห่อขึ้นเต็มหน้า เป็นที่ตกอกตกใจของคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายไปตามๆ กัน จะหาคนใหม่ก็ไม่ทัน ทุกคนต่างก็จนปัญญาไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร แต่ถึงอย่างไรก็ต้องส่งสาวผู้นี้เข้าประกวดอยู่ดี เพราะเตรียมการไว้แล้ว แต่โอกาสที่สาวบ้านค่ายจะเป็นนางงามระยองคงหมดหวังแน่ ก่อนถึงวันประกวดคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายทนเสียงอ้อนวอนของผู้ปกครองเด็กไม่ได้ จึงยอมให้ผู้ปกครองเด็กสาวคนนั้นนำไปหาหลวงพ่อทาบ หลวงพ่อทาบท่านทำน้ำมนต์ให้อาบ แล้วให้สีผึ้งเขียวมาหนึ่งหัวไม้ขีดไฟ และยังปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้อีกหนึ่งห่อ ทั้งกำชับให้เอาสีผึ้งติดตัวขึ้นไปบนเวทีประกวด และเวลาประกวดก็ให้ใช้แป้งที่ท่านปลุกเสกผัดหน้าขึ้นไปเดินบนเวทีทุกครั้ง ผลการตัดสินสาวงามระยองปี พ.ศ. ๒๕๐๓ นั้น ปรากฏว่าสาวน้อย อ. บ้านค่าย ได้ตำแหน่งนางสาวระยอง ทั้งๆ ที่ใบหน้าสิวขึ้นเยอะ ท่ามกลางความดีอกดีใจของชาวบ้านค่าย และความงุนงงของชาวอำเภออื่น ๆ และในปีต่อ ๆ มาอีก ๒-๓ ปี ชาวอำเภอบ้านค่ายก็ได้นางสาวระยองติดต่อกัน และนางงามบ้านค่ายทุกคนต่างไปขอให้หลวงพ่อทาบรดน้ำมนต์ปิดนะหน้าทอง ได้สีผึ้งเขียวติดตัวและปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้เช่นกัน
อาจารย์ปถม อาจสาคร เล่าว่า แป้งผัดหน้านั้น หลวงพ่อทาบท่านลงนะนวลจันทร์ และตั้งแต่นั้นมาชื่อเสียงในด้านเมตตามหานิยมของหลวงพ่อทาบ ก็ยิ่งโด่งดังขึ้น จนคนระยองถึงกับผูกวลียกย่องไว้ว่า “อิทธิฤทธิ์หลวงพ่อเพ่ง เมตตามหานิยมหลวงพ่อทาบ อาคมหลวงพ่อทิม”
สีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบมีคาถาใช้ดังนี้
""จิตติ มิตติ อระระหัง ปิยังมะมะ"" ใช้ภาวนาเป็นเมตตามหานิยม และใช้ภาวนาเวลาใช้สีผึ้งเขียวทาปาก เมื่อใช้นิ้วมือแตะสีผึ้งเขียวแล้วให้ว่า นะมโม 3 จบ ก่อน แล้วภาวนาคาถา พร้อมกับทาสีผึ้งเขียวที่ริมปาก จนทาปากเสร็จ
การใช้นิ้วมือแตะสีผึ้งเขียวทาปากนั้น ให้ใช้ดังนี้..
1.เมื่อจะไปหาผู้ใหญ่ หรือผู้มียศ ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือแตะสีผึ้งเขียวทาปาก
2.เมื่อจะไปหาคนรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือคนรับใช้ ให้ใช้นิ้วชี้แตะสีผึ้งเขียวทาปาก
3.เมื่อจะไปหาผู้สูงอายุ หรือแม่ม่าย ให้ใช้นิ้วกลางแตะสีผึ้งเขียวทาปาก
4.เมื่อจะไปหาสาวๆหนุ่มๆให้ใช้นิ้วนางแตะสีผึ้งเขียวทาปาก
5.เมื่อจะไปหาสาวน้อย หรือคนที่มีอายุน้อยกว่า ให้ใช้นิ้วก้อยแตะสีผึ้งเขียวทางปาก...
หากใช้ขี้ผึ้งอารธนาติดตัว นะโม 3 จบ ""อุกาสะ สัมปะติ จิตติ มิตติ อรหัง""(ขอขอบคุณเจ้าของข้อมูลมา ณ ที่นี่ด้วยครับครับ)
ผู้เข้าชม
2313 ครั้ง
ราคา
-
สถานะ
บูชาแล้ว
โดย
painana
ชื่อร้าน
ปายนานาพระเครื่อง
ร้านค้า
painana.99wat.com
โทรศัพท์
0841732332
ไอดีไลน์
painanapra
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงเทพ / 587-0-65558-5
หลวงปู่เอี่ยม
พระขุนแผน+บัตร
ตะกรุดโทน5นิ้ว
หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา
พระนางพญา
สวนสี่
หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
พระรอดพะเยา
พระกรุวัดกลาง
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
เพชร สารคาม
บี บุรีรัมย์
hra7215
เปียโน
NongBoss
tplas
โกหมู
greenpizza
Leksoi8
โชคเมืองนนท์
ยอด วัดโพธิ์
ภูมิ IR
someman
จิ๊บพุทธะมงคล
tumlawyer
vanglanna
หริด์ เก้าแสน
ชา วานิช
ชาวานิช
โก้ สมุทรปราการ
Yayoi
Chobdoysata
วุฒิระนอง
Joker Tanakron
tangmo
ep8600
Erawan
BAINGERN
chathanumaan
Le29Amulet
ผู้เข้าชมขณะนี้ 1473 คน
เพิ่มข้อมูล
สีผึ้งหลวงพ่อทาบ
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
สีผึ้งหลวงพ่อทาบ
รายละเอียด
สีผึ้งหลวงพ่อทาบ มาพร้อมเลี่ยมทอง*ประสบการณ์สีผึ้งหลวงพ่อทาบ เมตตาขนาด
แค่หัวไม้ขีดหากันจนพลิกแผ่นดิน!!
หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง หรือพระครูอรรถโกศล เป็นคนระยองโดยกำเนิด เกิดที่บ้านนาตาขวัญ ต. นาตาขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เมื่อวันศุกร์ เดือนหก ปีฉลู ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๒๐ ท่านเป็นเพื่อนสนิทกับหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ วิชาของทั้งสองท่าน ว่ากันว่ากินกันไม่ลง ประเด็นสำคัญคือวิชาของหลวงปู่ทาบที่เลื่องลือว่าสุดยอดคือวิชาสีผึ้งเขียว
การขอรับสีผึ้งจากหลวงพ่อทาบในสมัยก่อน สำหรับผู้ที่จะมาขอสีผึ้งเขียวของท่านนั้น กว่าจะได้ก็แสนจะลำบากยากเย็น เล่ากันว่าผู้ต้องการจะได้สีผึ้งเขียวของท่านจะต้องมานอนค้างคืนกันที่วัดหลาย ๆ คืน และหลาย ๆ ครั้ง จนหลวงพ่อทาบเห็นความมานะอดทนว่า ต้องการได้จริง ๆ ท่านจึงจะให้ แต่ท่านจะหยิบให้เพียงเท่าหัวไม้ขีดไฟเท่านั้น สีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบเมื่อใครได้มาแล้วเหมือนกับได้ของวิเศษที่เปี่ยมไปด้วยส่วนผสมแห่งเมตตามหานิยม คนเล่นของในสมัยนั้นจึงนำสีผึ้งหลวงพ่อทาบที่ได้มาเพียงแค่หัวไม้ขีดไฟมาเลี่ยมทองหุ้มใส่สายสร้อยหรือแขวนติดตัว แต่ก่อนจะมอบสีผึ้งเขียวให้แก่ผู้ใด หลวงพ่อทาบจะสั่งสอนวิธีใช้ให้ สำหรับเรื่องผู้หญิงนั้น ถ้าจะใช้สีผึ้งนี่ก็ขอให้ใช้เมื่อจำเป็นจริง ๆ ได้เขาสมใจแล้วก็อย่าไปทิ้งไปขว้าง มิเช่นนั้น จะเกิดวิบัติ
นักเลงรุ่นเก่าชาวระยองยอมรับว่าสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบนั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง ท่านผู้เฒ่าท่านหนึ่งใน ต.ตาสิทธิ์ ติดกับวัดหลวงปู่ทิมเล่าให้ผู้เขียนฟังว่าเมื่อสมัยหนุ่ม ๆ ข้าก็ได้อาศัยสีผึ้งเขียว ของหลวงพ่อทาบนี่แหละ จึงได้แม่อ้ายยอด มาจนทุกวันนี้ แม่อ้ายยอดเมื่อสาวๆ มันสวยอย่าบอกใครเชียว หนุ่ม ๆ มาจีบกันหัวกระไดแทบไม่แห้ง แต่ลุง (ตัวคนเล่า) มันพูดจาไม่เก่ง รูปก็ไม่หล่อ แรกๆแม่อ้ายยอดไม่เคยมองลุงเลย ความที่อยากเอาชนะไอ้พวกหนุ่มรุ่นเดียวกัน ลุงจึงดั้นต้นไปขอสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ ไปก็หลายครั้งหลายหนอยู่จนท่านจำได้และเห็นมาบ่อย ๆ หลวงพ่อทาบท่านเลยสงสารควักให้มาหัวไม้ขีดหนึ่งสั่งว่าเพียงเอาห่อติดตัว เวลาจะใช้กับผู้หญิงคนใดก็เพียงแต่ทำใจให้นึกเห็นใบหน้าเขาและเข้าไปหาเถอะไม่ช้าก็สำเร็จ และก็ได้ผลจริงๆไม่นานแม่อ้ายยอดเกิดสงสารเห็นใจลุง ทั้งที่ก่อนนั้นเขาไม่เคยชายตามองลุงเลย พวกหนุ่มบ้านอื่นงงเป็นไก่ตาแตก
ท่านผู้เฒ่าเล่าเสริมต่อไปว่า หลังจากได้แม่อ้ายยอดมาเป็นเมียและอยู่กับมาจนบัดนี้แล้ว ลุงเคยถามเขาว่า เพราะเหตุใดจึงเกิดมารักลุง ทั้งๆ ที่แต่แรกไม่เคยสนใจลุงเลย แม่อ้ายยอดบอกกับลุงว่าเป็นเพราะอะไรไม่รู้ วันไหนถ้าไม่เห็นหน้าลุงใจคอมันหงุดหงิด ร้อนรุ่ม พอได้เห็นหน้าลุงแล้วสบายใจ และไม่ช้าลุงก็ชวนมันมาอยู่กับลุงเสียเลย ผมได้ถามลุงผู้เฒ่าว่า แล้วสีผึ้งนั้นอยู่ไหน? ขอผมดูหน่อย ท่านผู้เฒ่าบอกว่า เมื่อลุงได้เมียแล้วก็ไม่ได้ใช้อีกเลย เพราะหลวงพ่อท่านสั่งนักสั่งหนาว่าถ้าใช้กับผู้หญิงแล้วต้องเลี้ยงเขาเป็นลูกเมีย ห้ามทิ้งขว้าง ลุงได้แม่อ้ายยอดมาครองคนเดียวก็นับว่าพอใจแล้ว เลยหุ้มทองเก็บไว้ จนอ้ายยอดลูกหัวปีของลุงมันเป็นหนุ่มแล้ว ลุงจึงมอบให้มัน ก็ดูซิอ้ายยอดลูกชายลุงมีเมียตั้ง ๓ คน และอยู่บ้านเดียวกันทั้งนั้น หลานลุงมีเป็นพรวน มีเมียมากมันก็ไม่ดีหรอกหลาน หาเท่าไรไม่พอเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย แต่ก็ดีไปอย่าง อ้ายยอดมันได้เขาแล้วมันก็ไม่ทิ้งไม่ขว้าง เลี้ยงเป็นลูกเป็นเมียทุกคน อ้ายยอดลูกลุงน่ะ มันไม่เท่าไหร่หรอก มีเพียงแค่ ๓ คน เท่านั้น แต่ลูกศิษย์หลวงพ่อทาบที่เคยบวชอยู่กับท่านคนหนึ่งซิ เดี๋ยวนี้ย้ายไปอยู่จันทบุรี มีเมียอยู่บ้านเดียวกันถึง ๖ คน ทุกคนปรองดองกันดี ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันเลย แต่ลูกเป็นกระบุง แต่เขาก็มีฐานะดีนะ เรื่องสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบ ถ้าใช้เรื่องผู้หญิงรับรองได้เยี่ยมจริง ๆ
ท่านพระอาจารย์เสียน มนูญโญ เจ้าอาวาสวัดกระบกขึ้นผึ้ง ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของหลวงทาบ ตลอดจน คุณปถม อาจสาคร อดีตสหกรณ์อำเภอบ้านค่าย และคุณประชา ตรีพาสัย เพื่อนผู้เขียนซึ่งจูงใจให้ผู้เขียนไปรู้จักกับหลวงปู่ทิมจนได้สร้างพระชุดชินบัญชรอันเป็นที่รู้จักกันทุกวันนี้ เคยเล่าเรื่องอานุภาพของสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันแพร่หลายทั่วจังหวัดระยองให้ฟังว่า
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ จ.ระยอง ได้จัดให้มีการประกวดนางสาวระยองขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อคัดคนส่งไปประกวดนางสาวไทยที่กรุงเทพฯ ในงานรัฐธรรมนูญที่วังสราญรมย์ อ. บ้านค่าย ก็สรรหาสาวงามส่งเข้าชิงชัยตำแหน่งนางสาวระยอง เหมือนกับอำเภออื่น ๆ เช่นกัน เมื่อได้สาวงามชาวอำเภอบ้านค่ายแล้ว ทางอำเภอก็นำสาวงามผู้นั้นมาขัดสีฉวีวรรณแล้วสอนกิริยามารยาทจนเป็นที่เรียบร้อย พอใกล้วันประกวดนางงามระยอง เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ก็เกิดขึ้น สาวงามซึ่งจะเป็นตัวแทนสาวบ้านค่ายขึ้นเวทีประกวด เกิดสิวเห่อขึ้นเต็มหน้า เป็นที่ตกอกตกใจของคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายไปตามๆ กัน จะหาคนใหม่ก็ไม่ทัน ทุกคนต่างก็จนปัญญาไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร แต่ถึงอย่างไรก็ต้องส่งสาวผู้นี้เข้าประกวดอยู่ดี เพราะเตรียมการไว้แล้ว แต่โอกาสที่สาวบ้านค่ายจะเป็นนางงามระยองคงหมดหวังแน่ ก่อนถึงวันประกวดคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายทนเสียงอ้อนวอนของผู้ปกครองเด็กไม่ได้ จึงยอมให้ผู้ปกครองเด็กสาวคนนั้นนำไปหาหลวงพ่อทาบ หลวงพ่อทาบท่านทำน้ำมนต์ให้อาบ แล้วให้สีผึ้งเขียวมาหนึ่งหัวไม้ขีดไฟ และยังปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้อีกหนึ่งห่อ ทั้งกำชับให้เอาสีผึ้งติดตัวขึ้นไปบนเวทีประกวด และเวลาประกวดก็ให้ใช้แป้งที่ท่านปลุกเสกผัดหน้าขึ้นไปเดินบนเวทีทุกครั้ง ผลการตัดสินสาวงามระยองปี พ.ศ. ๒๕๐๓ นั้น ปรากฏว่าสาวน้อย อ. บ้านค่าย ได้ตำแหน่งนางสาวระยอง ทั้งๆ ที่ใบหน้าสิวขึ้นเยอะ ท่ามกลางความดีอกดีใจของชาวบ้านค่าย และความงุนงงของชาวอำเภออื่น ๆ และในปีต่อ ๆ มาอีก ๒-๓ ปี ชาวอำเภอบ้านค่ายก็ได้นางสาวระยองติดต่อกัน และนางงามบ้านค่ายทุกคนต่างไปขอให้หลวงพ่อทาบรดน้ำมนต์ปิดนะหน้าทอง ได้สีผึ้งเขียวติดตัวและปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้เช่นกัน
อาจารย์ปถม อาจสาคร เล่าว่า แป้งผัดหน้านั้น หลวงพ่อทาบท่านลงนะนวลจันทร์ และตั้งแต่นั้นมาชื่อเสียงในด้านเมตตามหานิยมของหลวงพ่อทาบ ก็ยิ่งโด่งดังขึ้น จนคนระยองถึงกับผูกวลียกย่องไว้ว่า “อิทธิฤทธิ์หลวงพ่อเพ่ง เมตตามหานิยมหลวงพ่อทาบ อาคมหลวงพ่อทิม”
สีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบมีคาถาใช้ดังนี้
""จิตติ มิตติ อระระหัง ปิยังมะมะ"" ใช้ภาวนาเป็นเมตตามหานิยม และใช้ภาวนาเวลาใช้สีผึ้งเขียวทาปาก เมื่อใช้นิ้วมือแตะสีผึ้งเขียวแล้วให้ว่า นะมโม 3 จบ ก่อน แล้วภาวนาคาถา พร้อมกับทาสีผึ้งเขียวที่ริมปาก จนทาปากเสร็จ
การใช้นิ้วมือแตะสีผึ้งเขียวทาปากนั้น ให้ใช้ดังนี้..
1.เมื่อจะไปหาผู้ใหญ่ หรือผู้มียศ ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือแตะสีผึ้งเขียวทาปาก
2.เมื่อจะไปหาคนรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือคนรับใช้ ให้ใช้นิ้วชี้แตะสีผึ้งเขียวทาปาก
3.เมื่อจะไปหาผู้สูงอายุ หรือแม่ม่าย ให้ใช้นิ้วกลางแตะสีผึ้งเขียวทาปาก
4.เมื่อจะไปหาสาวๆหนุ่มๆให้ใช้นิ้วนางแตะสีผึ้งเขียวทาปาก
5.เมื่อจะไปหาสาวน้อย หรือคนที่มีอายุน้อยกว่า ให้ใช้นิ้วก้อยแตะสีผึ้งเขียวทางปาก...
หากใช้ขี้ผึ้งอารธนาติดตัว นะโม 3 จบ ""อุกาสะ สัมปะติ จิตติ มิตติ อรหัง""(ขอขอบคุณเจ้าของข้อมูลมา ณ ที่นี่ด้วยครับครับ)
ราคาปัจจุบัน
-
จำนวนผู้เข้าชม
2360 ครั้ง
สถานะ
บูชาแล้ว
โดย
painana
ชื่อร้าน
ปายนานาพระเครื่อง
URL
http://www.painana.99wat.com
เบอร์โทรศัพท์
0841732332
ID LINE
painanapra
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงเทพ / 587-0-65558-5
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี