พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เหรียญสร้างโบสถ...
เหรียญสร้างโบสถ์ หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เนื้อทองแดง วัดสวนหินผานางคอย อ.ศรีเชียงใหม่ จ.อำนาจเจริญ
พระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังในแถบภาคอีสานนั้นก็มีมากมาย หลายท่าน และเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนมากมาย หนึ่งในนั้นคือ หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร พระเกจิอาจารย์แห่งแดนอีสานท่านมีครูบาอาจารย์เป็นฤาษีตาไฟ เป็นผู้มีวิชาอาคมศักดิ์สิทธิ์และเข้มขลัง เป็นศิษย์ของสมเด็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ ท่านเป็นพระที่มีอิทธิญาณบารมีแก่กล้า เป็นพระลึกลับอยู่บนยอดเขาห่างไกลผู้คน มุ่งบำเพ็ญจิตภาวนาเป็นสำคัญ นับได้ว่าท่านเป็นที่พึ่งของชาวพุทธที่แท้จริง 
   หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร นามเดิม แก้ว เป็นบุตรของพ่อแก้ว อ่อนจันทึก กับ แม่สีดา อ่อนจันทึก เกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๐ ที่บ้านกุศกร อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี 
ในปี พ.ศ. ๒๔๕๒ อายุได้ ๑๑ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่กับหลวงปู่สมเด็จลุน เป็นลูกศิษย์หลวงปู่สมเด็จลุน ศึกษาวิชาอาคมต่างๆ อยู่ ๖ พรรษา เมื่อปี ๒๔๕๘ หลวงปู่สมเด็จลุนถึงแก่มรณภาพหลังจากทำบุญอุทิศส่วนกุศลเก็บอัฐิหลวงปู่สมเด็จลุนเรียบร้อยแล้วได้ออกเดินทางไปยังจ.สกลนคร
พ.ศ. ๒๔๖๐ อุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่ที่พระบาโพนสัน อ.ท่าพระบาท บริคำไชย ประเทศลาว และได้สร้างวัดอยู่ที่นั่น
พ.ศ. ๒๔๖๑ ไปสร้างวัดป่า สอนวิปัสสนากรรมฐานอยู่ที่บ้านหินบักเปงร่วมสำนักเดียวกันกับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์เสาร์ พระอาจารย์วิโรจน์ รัตโนบล และพ่อแม่ศรีทัศ ท่าอุเทน หลังจากนั้นได้ออกธุดงค์ไปประเทศลาว ไปธุดงค์ตามป่าตามภูเขาและพำนักอยู่ที่ภูเขาควาย ได้ศึกษาศาสตร์และศิลป์ กับปู่ฤาษีอาจารย์ใหญ่ที่นั่น เป็นเวลา ๔๕ พรรษา จึงได้ออกวิเวกรุกขมูลเพียงลำพังไปจำพรรษาอยู่ที่ภูเห็ดละโงก ประเทศกัมพูชา ซึ่งบริเวณนั้นเรียกว่า สามเหลี่ยมนกแขก จำพรรษาอยู่ที่นั่นประมาณ ๙ พรรษา ก็ออกธุดงค์ไปตามเขตชายแดนประเทศไทย-ลาว เข้าไปจนถึงประเทศพม่า ไปจำพรรษาอยู่ภูเขาพนมฉัฐ (สามเหลี่ยมทองคำ) เป็นเวลา ๓ พรรษา จากนั้นออกธุดงค์ไปทั่วประเทศไทย ลาว พม่า กัมพูชา และประเทศอินเดีย
พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้มาปักกลดชั่วคราวอยู่ที่วัดบุปผาวัลย์ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ได้สร้างเหรียญรุ่นแรก ชื่อเหรียญ สำเร็จพรหมมา
พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้เดินทางจาก อ.โขงเจยมไปตั้งสำนักสงฆ์อยู่ที่เวินเพาะ ปากห้วยไร่ บ้านสำโรง ได้ออกโปรดสัตว์แผ่เมตตาให้แก่พวกลาวอพยพที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น
พ.ศ. ๒๕๒๖ เดินทางออกจากเวินเพาะ ปากห้วยไร่ ออกธุดงค์ไปปักกลดที่บ้านม่วง สร้างโบสถ์
พ.ศ.๒๕๒๙ เมื่อช่วยสร้างโบสถ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ออกวิเวกรุกขมูลไปอยู่วัดถ้ำแสงธรมพรหมมาวาส บ้านแก้งปลาปก อ.ปากชม จ.เลย
พ.ศ. ๒๕๓๑ ออกเดินทางจาก จ.เลย มาจำพรรษาที่บ้านดงนา อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ได้สร้างวัดถ้ำสวนหินผานางคอย และบำเพ็ญธรรมอยู่ที่นั่นมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยกุศลแห่งธรรมแผ่ไพศาลไปทั่ว มีพุทธศาสนิกชนให้ความเชื่อถือและศรัทธา จนมีศิษยานุศิษย์มากมาย เป็นมี่รู้จักไปทั่วประเทศ
    กล่าวกันว่าหลวงปู่พรหมมา ท่านมีครูบาอาจารย์เป็นฤาษีตาไฟ มีวิชาอาคมเข้มขลัง ต่อมาได้ธุดงค์ข้ามมายังฝั่งไทย เมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๓ หลวงปู่พรหมมาได้เห็นว่าถ้ำสวนหินภูกระเจียว ในวันเดือนหงายจะมีสัตว์ป่านานาชนิดวิ่งกันขวักไขว่ เหมาะแก่การฝึกปฏิบัติตน จึงได้พักบำเพ็ญเพียรแต่นั้นมา คืนวันนั้น สัตว์ป่านานาชนิดออกวิ่งขวักไขว่ประหนึ่งว่า "เจ้าที่ต้อนรับหรือขับไส" เพราะชาวบ้านบอกว่าเจ้าที่ของเขาลูกนี้แรงมาก ไม่มีพระธุดงค์รูปใดหรือใครมาอยู่ได้ แต่หลวงปู่บอกว่าเขาออกมาแสดงความชื่นชมยินดี ท่านยังนั่งสมาธิพบว่า เจ้าที่ อาราธนา
"ให้พักที่เขาลูกนี้เถิด ท่านต้องการอะไร ท่านจะได้ พวกเขาจะจัดหามาถวาย" 
           จากนั้นหลวงปู่ก็ออกบิณฑบาต แผ่ส่วนกุศลให้แก่เจ้าที่เจ้าทาง และได้นำความผาสุกมาสู่ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง มีความรมเยนเป็นสุขกว่าแต่ก่อน แม้แต่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ก็ทรงเสด็จเพื่อนมัสการหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร มาแล้วถึง ๒ ครั้ง ในขณะนั้นหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร มีสุขภาแข็งแรง ปฎิบัติธรรมเป็นนิจ โปรดญาติโยมสม่ำเสมอ และช่วยดูแลชาวบ้านดงนาและหมู่บ้านใกล้เคียง ขณะนั้นบนลานยอดเขาภูกระเจียวได้ก่อสร้างโบสถ์กึ่งศาลาการเปรียญมูลค่ากว่า ๔๐ ล้านบาท ซึ่งหลวงปู่พรหมมาเจริญพรว่า ฟ้าประทานให้ และยังบอกด้วยว่า เรื่องประวัติส่วนตัวแม้จะมีคนมาจ่ายห้าแสนก็ไม่เปิดเผย หรือใครจะจ่ายสักล้านก็จะบอกว่าตัวเองเก่งหรือมีอภินิหารอะไร ใครอยากรู้อยากให้ไปดูเองที่ ถ้ำสวนหินผานางคอย ภูกระเจียว
          กล่าวกันว่าหลวงปู่พรหมมา ท่านมีครูบาอาจารย์เป็นฤาษีตาไฟ มีวิชาอาคมเข้มขลัง ต่อมาได้ธุดงค์ข้ามมายังฝั่งไทย เมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๓ หลวงปู่พรหมมาได้เห็นว่าถ้ำสวนหินภูกระเจียว ในวันเดือนหงายจะมีสัตว์ป่านานาชนิดวิ่งกันขวักไขว่ เหมาะแก่การฝึกปฏิบัติตน จึงได้พักบำเพ็ญเพียรแต่นั้นมา
            เมื่อเวลา ๒๒ นาฬิกา ๑๑ นาที ๓๑ วินาที ของวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๔๕ หลวงปู่พรหมมาได้มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคหัวใจ สิริอายุรวม ๑๐๕ ปี ณ วัดธาตุวราราม จ.เลย วัตถุมงคลที่ท่านจัดสร้างมีด้วยกันหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนมีประสบการณ์และสร้างอภินิหารให้แก่ผู้บูชาอย่างมากมาย ซึ่งสายสำเร็จลุนวัตถุมงคลจะโดดเด่นในเรื่องเมตตา โชคลาภ ค้าขายและแคล้วคลาดปลอดภัย
 
 
ผู้เข้าชม
1780 ครั้ง
ราคา
350
สถานะ
เปิดให้บูชา
ชื่อร้าน
บารมีบุญพระเครื่อง
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
rit3009
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 008-8-93615-9

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
เจริญสุขว.ศิลป์สยามsomemanภูมิ IRNetnapaLe29Amulet
stp253เทพจิระtumlawyerโจ๊ก ป่าแดงน้ำตาลแดงhopperman
sirachalordtplasเอก พานิชพระเครื่องep8600tintin
termboonเพ็ญจันทร์mon37Manas094ยุ้ย พลานุภาพทองธนบุรี
gorn9chaithawatแหลมร่มโพธิ์นิสสันพระเครื่องหนองคายก้อง วัฒนาTotoTato

ผู้เข้าชมขณะนี้ 1348 คน

เพิ่มข้อมูล

เหรียญสร้างโบสถ์ หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เนื้อทองแดง วัดสวนหินผานางคอย อ.ศรีเชียงใหม่ จ.อำนาจเจริญ



  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
เหรียญสร้างโบสถ์ หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เนื้อทองแดง วัดสวนหินผานางคอย อ.ศรีเชียงใหม่ จ.อำนาจเจริญ
รายละเอียด
พระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังในแถบภาคอีสานนั้นก็มีมากมาย หลายท่าน และเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนมากมาย หนึ่งในนั้นคือ หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร พระเกจิอาจารย์แห่งแดนอีสานท่านมีครูบาอาจารย์เป็นฤาษีตาไฟ เป็นผู้มีวิชาอาคมศักดิ์สิทธิ์และเข้มขลัง เป็นศิษย์ของสมเด็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ ท่านเป็นพระที่มีอิทธิญาณบารมีแก่กล้า เป็นพระลึกลับอยู่บนยอดเขาห่างไกลผู้คน มุ่งบำเพ็ญจิตภาวนาเป็นสำคัญ นับได้ว่าท่านเป็นที่พึ่งของชาวพุทธที่แท้จริง 
   หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร นามเดิม แก้ว เป็นบุตรของพ่อแก้ว อ่อนจันทึก กับ แม่สีดา อ่อนจันทึก เกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๐ ที่บ้านกุศกร อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี 
ในปี พ.ศ. ๒๔๕๒ อายุได้ ๑๑ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่กับหลวงปู่สมเด็จลุน เป็นลูกศิษย์หลวงปู่สมเด็จลุน ศึกษาวิชาอาคมต่างๆ อยู่ ๖ พรรษา เมื่อปี ๒๔๕๘ หลวงปู่สมเด็จลุนถึงแก่มรณภาพหลังจากทำบุญอุทิศส่วนกุศลเก็บอัฐิหลวงปู่สมเด็จลุนเรียบร้อยแล้วได้ออกเดินทางไปยังจ.สกลนคร
พ.ศ. ๒๔๖๐ อุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่ที่พระบาโพนสัน อ.ท่าพระบาท บริคำไชย ประเทศลาว และได้สร้างวัดอยู่ที่นั่น
พ.ศ. ๒๔๖๑ ไปสร้างวัดป่า สอนวิปัสสนากรรมฐานอยู่ที่บ้านหินบักเปงร่วมสำนักเดียวกันกับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์เสาร์ พระอาจารย์วิโรจน์ รัตโนบล และพ่อแม่ศรีทัศ ท่าอุเทน หลังจากนั้นได้ออกธุดงค์ไปประเทศลาว ไปธุดงค์ตามป่าตามภูเขาและพำนักอยู่ที่ภูเขาควาย ได้ศึกษาศาสตร์และศิลป์ กับปู่ฤาษีอาจารย์ใหญ่ที่นั่น เป็นเวลา ๔๕ พรรษา จึงได้ออกวิเวกรุกขมูลเพียงลำพังไปจำพรรษาอยู่ที่ภูเห็ดละโงก ประเทศกัมพูชา ซึ่งบริเวณนั้นเรียกว่า สามเหลี่ยมนกแขก จำพรรษาอยู่ที่นั่นประมาณ ๙ พรรษา ก็ออกธุดงค์ไปตามเขตชายแดนประเทศไทย-ลาว เข้าไปจนถึงประเทศพม่า ไปจำพรรษาอยู่ภูเขาพนมฉัฐ (สามเหลี่ยมทองคำ) เป็นเวลา ๓ พรรษา จากนั้นออกธุดงค์ไปทั่วประเทศไทย ลาว พม่า กัมพูชา และประเทศอินเดีย
พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้มาปักกลดชั่วคราวอยู่ที่วัดบุปผาวัลย์ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ได้สร้างเหรียญรุ่นแรก ชื่อเหรียญ สำเร็จพรหมมา
พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้เดินทางจาก อ.โขงเจยมไปตั้งสำนักสงฆ์อยู่ที่เวินเพาะ ปากห้วยไร่ บ้านสำโรง ได้ออกโปรดสัตว์แผ่เมตตาให้แก่พวกลาวอพยพที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น
พ.ศ. ๒๕๒๖ เดินทางออกจากเวินเพาะ ปากห้วยไร่ ออกธุดงค์ไปปักกลดที่บ้านม่วง สร้างโบสถ์
พ.ศ.๒๕๒๙ เมื่อช่วยสร้างโบสถ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ออกวิเวกรุกขมูลไปอยู่วัดถ้ำแสงธรมพรหมมาวาส บ้านแก้งปลาปก อ.ปากชม จ.เลย
พ.ศ. ๒๕๓๑ ออกเดินทางจาก จ.เลย มาจำพรรษาที่บ้านดงนา อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ได้สร้างวัดถ้ำสวนหินผานางคอย และบำเพ็ญธรรมอยู่ที่นั่นมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยกุศลแห่งธรรมแผ่ไพศาลไปทั่ว มีพุทธศาสนิกชนให้ความเชื่อถือและศรัทธา จนมีศิษยานุศิษย์มากมาย เป็นมี่รู้จักไปทั่วประเทศ
    กล่าวกันว่าหลวงปู่พรหมมา ท่านมีครูบาอาจารย์เป็นฤาษีตาไฟ มีวิชาอาคมเข้มขลัง ต่อมาได้ธุดงค์ข้ามมายังฝั่งไทย เมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๓ หลวงปู่พรหมมาได้เห็นว่าถ้ำสวนหินภูกระเจียว ในวันเดือนหงายจะมีสัตว์ป่านานาชนิดวิ่งกันขวักไขว่ เหมาะแก่การฝึกปฏิบัติตน จึงได้พักบำเพ็ญเพียรแต่นั้นมา คืนวันนั้น สัตว์ป่านานาชนิดออกวิ่งขวักไขว่ประหนึ่งว่า "เจ้าที่ต้อนรับหรือขับไส" เพราะชาวบ้านบอกว่าเจ้าที่ของเขาลูกนี้แรงมาก ไม่มีพระธุดงค์รูปใดหรือใครมาอยู่ได้ แต่หลวงปู่บอกว่าเขาออกมาแสดงความชื่นชมยินดี ท่านยังนั่งสมาธิพบว่า เจ้าที่ อาราธนา
"ให้พักที่เขาลูกนี้เถิด ท่านต้องการอะไร ท่านจะได้ พวกเขาจะจัดหามาถวาย" 
           จากนั้นหลวงปู่ก็ออกบิณฑบาต แผ่ส่วนกุศลให้แก่เจ้าที่เจ้าทาง และได้นำความผาสุกมาสู่ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง มีความรมเยนเป็นสุขกว่าแต่ก่อน แม้แต่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ก็ทรงเสด็จเพื่อนมัสการหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร มาแล้วถึง ๒ ครั้ง ในขณะนั้นหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร มีสุขภาแข็งแรง ปฎิบัติธรรมเป็นนิจ โปรดญาติโยมสม่ำเสมอ และช่วยดูแลชาวบ้านดงนาและหมู่บ้านใกล้เคียง ขณะนั้นบนลานยอดเขาภูกระเจียวได้ก่อสร้างโบสถ์กึ่งศาลาการเปรียญมูลค่ากว่า ๔๐ ล้านบาท ซึ่งหลวงปู่พรหมมาเจริญพรว่า ฟ้าประทานให้ และยังบอกด้วยว่า เรื่องประวัติส่วนตัวแม้จะมีคนมาจ่ายห้าแสนก็ไม่เปิดเผย หรือใครจะจ่ายสักล้านก็จะบอกว่าตัวเองเก่งหรือมีอภินิหารอะไร ใครอยากรู้อยากให้ไปดูเองที่ ถ้ำสวนหินผานางคอย ภูกระเจียว
          กล่าวกันว่าหลวงปู่พรหมมา ท่านมีครูบาอาจารย์เป็นฤาษีตาไฟ มีวิชาอาคมเข้มขลัง ต่อมาได้ธุดงค์ข้ามมายังฝั่งไทย เมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๓ หลวงปู่พรหมมาได้เห็นว่าถ้ำสวนหินภูกระเจียว ในวันเดือนหงายจะมีสัตว์ป่านานาชนิดวิ่งกันขวักไขว่ เหมาะแก่การฝึกปฏิบัติตน จึงได้พักบำเพ็ญเพียรแต่นั้นมา
            เมื่อเวลา ๒๒ นาฬิกา ๑๑ นาที ๓๑ วินาที ของวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๔๕ หลวงปู่พรหมมาได้มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคหัวใจ สิริอายุรวม ๑๐๕ ปี ณ วัดธาตุวราราม จ.เลย วัตถุมงคลที่ท่านจัดสร้างมีด้วยกันหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนมีประสบการณ์และสร้างอภินิหารให้แก่ผู้บูชาอย่างมากมาย ซึ่งสายสำเร็จลุนวัตถุมงคลจะโดดเด่นในเรื่องเมตตา โชคลาภ ค้าขายและแคล้วคลาดปลอดภัย
 
 
ราคาปัจจุบัน
350
จำนวนผู้เข้าชม
1784 ครั้ง
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
ชื่อร้าน
บารมีบุญพระเครื่อง
URL
เบอร์โทรศัพท์
0910162844
ID LINE
rit3009
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 008-8-93615-9




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี